Saturday, March 30, 2013

น้ำมันดีกินอย่างไร ไม่ให้อ้วน ไม่ให้เป็นสิว ไม่ให้ผิวมัน



น้ำมันปลา เลซิติน น้ำมันมะพร้าว น้ำมันจมูกข้าว...
กินแล้วร่างกายต้องจัดการให้ได้หมด 
จึงจะช่วยเสริมสร้างร่างกายได้อย่างดียิ่ง

ในพวกตระกูลอาหารเสริมกลุ่มน้ำมันทั้งหมด
ร่างกาย จะย่อยน้ำมันได้ต้องอาศัย "น้ำดี"
น้ำดีจะช่วยแตกน้ำมันให้เป็นละอองเล็กๆ
เพื่อการย่อยและการดูดซึม

ซึ่งแตกต่างจากการย่อยอาหารที่ละลายน้ำได้

ดังนั้นก่อนกินน้ำมันเสริม คุณต้องดูแลถุงน้ำดีของคุณให้ดีๆ
เช่น อย่านอนดึกในช่วงเวลาน้ำดี ซึ่งเป็นเวลา 5 ทุ่มถึง ตี 1
ไม่เช่นนั้นจะอ้วนง่าย ท้องอืดง่าย น้ำมันไม่ย่อย
เพราะน้ำดีไม่ได้เอาไว้เพียงย่อยน้ำมันที่ดีของคุณเท่านั้น
มันยังต้องใช้ย่อยน้ำมันอื่นๆ ระหว่างวันอีกด้วย เช่น
น้ำมันทอดอาหาร (มักใช้น้ำมันปาล์ม)
น้ำมันจากผัดกระเพรา ผัดซีอิ้วต่างๆ

เมื่อน้ำมันมากเกินไป ทางเดินอาหารของคุณก็จะเลอะน้ำมัน
เหมือนกับ คุณเอามือจุ่มน้ำมัน แล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่าได้เท่านั้น
วันละสามมื้อ คุณว่าน้ำมันมันจะล้างออกได้อย่างไร
ลองกลับไปดูที่ครัวก็ได้ว่า เลอะแค่ไหนแล้วล้างออกยากแค่ไหน


ข้อแนะนำ เพื่อให้คุณกินน้ำมันและไม่อ้วน ไม่เป็นสิว ไม่ผิวมัน
1. อย่ากินอาหารเสริมประเภทน้ำมันก่อนนอน
เพราะร่างกายต้องการการพักผ่อน น้ำดี และ ตับ
ต้องการพัก ตั้งแต่ 5 ทุ่มแล้ว ควรให้เวลาก่อนประมาณ
2-4 ชั่วโมง ควรงดอาหารหวานและมัน หากต้องการลดความอ้วน

2. หากกินแล้วมีอาการร้อนใน ต้องหยุด เพราะ
อาหารกลุ่มน้ำมันเหล่านี้ ต้องการน้ำอย่างมาก
อย่างน้อยๆ ก็น้ำดีนี่แหละที่ต้องเอาไปใช้
หากคุณนอนดึกหลังห้าทุ่มด้วยแล้ว ยิ่งร้อนง่ายใหญ่เลย
เพราะเวลานั้นช่วงเวลาของถุงน้ำดี ไม่ได้พักผ่อน
จะเกิดการสะสมไขมัน และเป็นสิวได้ง่าย

3. หากคุณต้องการจะได้ผลดีจริงๆ คือคุณควรงด น้ำมันเลว
ไขมันเลว เช่น ไขมันจากสัตว์พวก หมู เป็ด ไก่ กินมันๆ เกิน
อาหารทอดที่มาจากน้ำมันเก่า ทอดซ้ำแล้วซ้ำอีก
เพราะร่างกายจะได้เอาไปจัดการน้ำมันดีๆ ที่คุณกินเข้าไป
ให้ไปซ่อมแซมเซลล์ โดยมิต้องมาจัดการทั้งน้ำมันดี
และน้ำมันเลวในคราวเดียวกัน

"จะบำรุงด้วยของที่ดีที่สุด...
ต้องกินในเวลาที่เหมาะสมที่สุด"

ขอเพียงร่างกายพร้อม...
น้ำเปล่าสักแก้ว ยังกลับรักษาโรคได้"

แบ่งปันเคล็ดลับนี้ออกไป เพื่อคนที่คุณรักนะครับ

"ความรู้โบราณ อายุนับพันปี
ถ่ายทอดผ่านร้อยชั่วคน
แต่บางคน...ชั่วชีวิต กลับมิเคยได้รู้..."
โดย ผีเสื้อหน้าหยก

เคล็ดลับจากศาสตร์โบราณ เพื่อคนยุคใหม่
Facebook คันฉ่องสุขภาพ

ขอบคุณรูปจาก
info.muslimthaipost.com

No comments:

Post a Comment