Saturday, March 30, 2013

ร้อนบอกโรค...

ร้อนบอกโรค...
ความร้อนเหมือนดั่งไฟ มีคุณมีโทษ...
รู้จักใช้ไฟภายนอก นับว่าเก่ง...
เข้าใจไฟภายใน นับว่ามีปัญญา...

ร้อนที่ศีรษะ 
ไม่ดี เพราะความร้อนลอยขึ้นเบื้องบน
หัวหนัก เท้าเบา พวกนี้จะเป็นไข้ได้
คล้ายๆ กับคนที่กินเหล้าเช่นกัน หน้าแดง เดินโซเซ เพราะหัวหนักเท้าเบา
แต่คนเป็นไข้จะเกิดอาการมึนหัวแทน

ร้อนที่หลังคอ
พวกนี้นอนไม่พอ ให้เอามือตัวเองจับหลังคอตัวเอง
หากหลังคอยิ่งอุ่นร้อนมากกว่ามือ แสดงว่าเมื่อคืืนนอนไม่พอ
หากมีอาการมึนศีรษะมาก อย่าฝืนทำงานต่อ ให้ลองนอนราบดู
จนกว่าจะรู้สึกดีขึ้น

ร้อนที่ใบหู
พวกนี้ไตทำงานหนัก เพราะทำงานมากเกินไป เครียดง่าย
ร่างกายจะระบายความร้อนส่วนเกินจากไตออกทางใบหู
ทำให้ใบหูแดงกว่าหน้า จะเกิดอาการได้เด่นชัดช่วงเย็น
และมีอาการง่วงนอน ช่วงห้าโมงเย็นถึงหนึ่งทุ่ม จากนั้นจะตื่นขึ้น
แล้วนอนเอาดึกๆ อีกที
โดยมากมักเป็นผู้ชาย เพราะไตสัมพันธ์ กับ อะดรีนาลีน
พวกนี้เวลาโกรธจะเหมือนไฟไหม้ฟาง วูบเดียวแล้วจบ
แต่ผู้หญิง สัมพันธ์กับไทรอกซินมากกว่า
พวกนี้เวลาโกรธจะเหมือนไฟไหม้แกลบ คือคิดแล้วคิดอีก คิดไม่จบ ครุ กรุ่นอยู่อย่างนั้น แต่ไม่พูด ทำให้ผู้หญิงจึงมีโอกาสป่วยเป็นโรคไทรอยด์เป็นพิษมากกว่าผู้ชายมาก

วิธีการแก้ไฟจากความโกรธ แก้ด้วยของขมเฝื่อนฝาดทั้งหลาย ยกตัวอย่าง หากใครโกรธๆ อยู่เอาบอระเพ็ด ยัดใส่ปาก ขมปี๋ ไฟจากความโกรธจะหายไปทันที แต่เราใช้ยาขมก็พอแล้วครับ

ร้อนที่ตา
พวกนี้จะมาคู่กับอาการแดง แสบพร่า
ไม่ค่อยสู้แสง ไม่ค่อยสู้แอร์ กระทบมาจากกระเพาะปัสสาวะ
ระวังการดื่มน้ำน้อย อย่าปล่อยให้ปัสสาวะเหลือง
เพราะต่อไปตาอาจจะเป็นต้อตามมาได้

ร้อนที่ลิ้น
พวกนี้หัวใจร้อน ลิ้นเป็นทวารของหัวใจ
แสดงว่าร่างกายภายในร้อนมาก ลิ้นแดงปากแดง
กินยาขม แล้วไปนอนพักผ่อนให้เต็มที่
อย่าพยายามรีบเร่งกับชีวิตมากเกินไปนัก


ความร้อน ที่บ่งบอกถึงสุขภาพที่แข็งแรง
คือความร้อนที่อยู่ถูกที่ จะมีคุณประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น

ร้อนที่มือและเท้า พวกนี้การแลกลมปราณทั้งหกสายที่ปลายมือและเท้าจะดีมาก
แสดงว่า พลังชี่พุ่งไปได้ถึงปลายมือ
เลือดไปเลี้ยงถึงส่วนปลายอย่างสมบูรณ์
พวกนี้ไม่เจ็บป่วยง่าย

ร้อนที่จุดมิ่งเหมิน (บริเวณด้านหลัง อยู่แถวๆตรงกับระดับสะดือ)
ร้อนตรงจุดนี้แสดงว่าการเผาผลาญดี
ร่างกายจะอบอุ่น ไม่หนาวง่าย อายุยืน
ทำให้กินไม่อ้วนง่าย ฉะนั้นรีบกระตุ้นจุดมิ่งเหมินกันเอาไว้ทุกๆ วันนะครับ
หากกระตุ้นได้แล้ว ความอบอุ่นจะลามเข้ามาด้านหน้าท้องเอง


"ไฟนอกเตา ไม่ว่าที่ไหน... ก็อันตรายยิ่งนัก"


"ความรู้โบราณ อายุนับพันปี
ถ่ายทอดผ่านร้อยชั่วคน
แต่บางคน...ชั่วชีวิต กลับมิเคยได้รู้..."
โดย ผีเสื้อหน้าหยก

เคล็ดลับจากศาสตร์โบราณ เพื่อคนยุคใหม่
Facebook คันฉ่องสุขภาพ

ขอบคุณรูปจาก
Credit photo by
http://www.cleanmpg.com/forums/printthread.php?t=46153

วิธีกระตุ้นจุดเผาไขมัน เพิ่มการเผาผลาญ สำหรับคนขี้เกียจ (จริงๆ)


(จากการที่กระตุ้นจุดเผาไขมัน โดยแนะนำให้ยกขาเป็นรูปตัวแอล)
http://www.facebook.com/photo.php?fbid=155833024579039&set=a.153415624820779.1073741828.152788904883451&type=1&theater

วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่ยกขาตัวเองไม่ขึ้นครับ
จากหลายๆเหตุผล เช่น
บางคนที่อายุมากแล้ว กล้ามเนื้อไม่แข็งแรง เจ็บหลัง
บางคนอายุน้อยอยู่ แต่ขี้เกียจยก
บางคน อยากนอนดูหนัง ไปทำไป
บางคน ก็ต้องอ่านหนังสือ...

วิธีง่ายแสนง่ายก็คือ
ใช้กระเป๋าน้ำร้อนหนุนบริเวณจุดมิ่งเหมินแทน
(จุดนี้อยู่ที่ด้านหลังตรงกับสะดือ)
ต้องนอนทับจนกว่า ความร้อนจะแผ่ซ่านเข้ามาในร่างกาย
เหงื่อออก เต้นตุ้บๆ เหมือนเดิม
หากไม่เต้น ถือว่า จุดยังไม่ถูกกระตุ้น
ควรต้องขยับแข้งขามาก อย่างน้อยมันก็ช่วยให้จุดถูกกระตุ้นเร็วขึ้น

ลองทำดูนะครับ

ช่วยกันแชร์เคล็ดลับของคนขี้เกียจให้กันและกัน
เพื่อช่วยให้โลกใบนี้...มีแต่สิ่งที่ง่ายๆ นะครับ

ราตรีสวัสดิ์ครับ

"ความรู้โบราณ อายุนับพันปี
ถ่ายทอดผ่านร้อยชั่วคน
แต่บางคน...ชั่วชีวิต กลับมิเคยได้รู้..."
โดย ผีเสื้อหน้าหยก

เคล็ดลับจากศาสตร์โบราณ เพื่อคนยุคใหม่
Facebook คันฉ่องสุขภาพ

ขอบคุณรูปจาก
http://www.cosmosmagazine.com/news/lazy-lifestyle-may-age-you-faster/

ชายคนหนึ่ง เขาเดินทางเข้าไปในป่า


ชายคนหนึ่ง เขาเดินทางเข้าไปในป่า
ได้พบม้าตัวหนึ่ง ซึ่งสวยงามมาก
เขาจึงนำม้าตัวนั้นกลับมาเลี้ยงไว้ที่บ้านของเขา...

ต่อมาไม่นาน เศรษฐีในหมู่บ้าน
ได้มาพบเห็นแล้วขอซื้อม้าตัวนั้น
ด้วยราคาที่สูง...

เขาชอบม้าตัวนี้มาก
ดังนั้นจึงตัดสินใจไม่ขายมันไป...

เช้าวันต่อมาเมื่อได้ตื่นขึ้น
เขาพบว่า ม้านั้นได้หนีหลุดจากคอกไป...

เขาเสียดายมากที่ไม่ได้ขายม้าตัวนี้
ก่อนที่มันจะหายไป...

เจ็ดวันถัดมา ในขณะที่กำลังทำงานอยู่
เขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าม้าหลายๆ ตัว ข้างหลัง
จึงเดินไปดู เห็นม้าตัวนั้น
มันกลับมา พร้อมกับลูกๆ ที่สวยงามถึง 7 ตัว...

ไม่นานเมื่อลูกม้าโตขึ้น
ลูกชายของเขาได้ขี่ลูกม้า
จนเกิดอุบัติเหตุ ตกจากหลังม้า
และลูกชายของเขาต้องกลายเป็นคนพิการ...

เขาเสียใจมาก เขาคิดว่า ไม่ควรเอาม้าตัวนี้มาเลี้ยงเลยตั้งแต่แรก
ทุกๆ ครั้งที่เขาเห็นสภาพของลูกชาย
เขาก็เศร้าใจมาก...

เขาเริ่มไม่ยุ่งกับคนบ้านอื่นๆ เก็บตัวเงียบ
ไม่นานนัก เกิดสงคราม
ชายหนุ่มทุกๆ คนต้องถูกเกณฑ์ออกไปรบ...

และทุกๆ คนก็ไม่ได้มีชีวิตรอดกลับมาอีก...

มีเขาเพียงผู้เดียว ในหมู่บ้าน
ที่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับลูกชายผู้พิการของเขา...


"ไม่มีใครรู้หรอกว่าอะไรดี และไม่ดีสำหรับวันนี้"

ผีเสื้อหน้าหยก
Fb: คันฉ่องสุขภาพ

ขอบคุณรูปจาก
http://surrealpictures.feedio.net/

แม้ว่าวันข้างหน้า อาจต้องเดินเพียงลำพัง...

แม้ว่าวันข้างหน้า อาจต้องเดินเพียงลำพัง...


ตื่นขึ้นมาแต่เช้า ...ริมน้ำใส่แก้ว



ดื่มน้ำสามคำ... ไม่ขาด... ไม่เกิน...
อมน้ำเป็นคำ... ก่อนกลืน... ไม่ดื่ม...
คำแรก นึกไปที่หัว... 
คำสอง นึกมาที่หน้าอก...
คำสาม นึกมาที่ท้อง...

ร่างกายจะชุ่มช่ำ... ประดุจหยกแช่น้ำ...

เคล็ดลับสั้นๆ
แต่ถูกเก็บงำไว้ยาวนาน...
ประหนึ่งว่าไร้เหตุผล
อาจเพียงหวังไว้ มิให้ใครทุกคน...


"ความรู้โบราณ อายุนับพันปี
ถ่ายทอดผ่านร้อยชั่วคน
แต่บางคน...ชั่วชีวิต กลับมิเคยได้รู้..."
โดย ผีเสื้อหน้าหยก

เคล็ดลับจากศาสตร์โบราณ เพื่อคนยุคใหม่
Facebook คันฉ่องสุขภาพ

ขอบคุณรูปจาก
www.ranthong.com

ใช้ความคิดมาก แต่เหงื่อไม่ออก







เพราะอยู่แต่ในห้องแอร์
ความร้อนจึงสะสม
ดวงตาจะเสื่อมเร็ว...

คนที่ทำงานใช้ความคิดมาก
สมองจะทำงานหนัก เกิดความร้อนสูงในร่างกาย
แต่กลับไม่เคยออกกำลังกายให้เหงื่อออกเลย

เมื่อร่างกายร้อน แต่เหงื่อไม่ออก
จะเกิดความร้อนสะสม
กระทบต่ออวัยวะภายใน ให้เสื่อมเร็ว (แก่เร็ว)
สังเกตได้จาก ปัสสาวะเป็นสีเหลืองร้อน
เนื่องจากเส้นลมปราณของกระเพาะปัสสาวะ
จะกระทบไปถึงจุดจิงหมิงที่หัวตา
ส่งผลให้ตาพร่ามัว ไม่สู้แสง ตาแสบง่าย
ยิ่งทำงานกับคอมพิวเตอร์ หรือที่มีแสงสว่างนานๆ
จะกระตุ้นให้ต่อไป ตาเสื่อมเร็ว
เกิดต้อขึ้นได้ (ต้อหิน ต้อกระจก ต้อลม ต้อเนื้อ)

หากเกิดอาการตาแห้งล้า ดื่มน้ำมากเท่าไหร่ก็ไม่หาย...
ขอแนะนำให้
แนะนำให้กดจุดตรงหลังท้ายทอย
เร่ิมต้นจากจุดเฟิงฉือ จุดนี้จะอยู่ตรงรอยบุ๋มตรงท้ายทอย
จุดนี้อยู่บนเส้นลมปราณถุงน้ำดี (สามารถรักษาไมเกรนได้ดี)
ให้นวดไปสักพัก แล้วค่อยร่นมือ มาตรงเส้นเอ็นทั้งสองด้านใน
ระหว่างคลึง(ใช้คลึงนะครับ อย่าแค่กด ) ให้หลับตา วนอยู่อย่างนั้นหลายๆครั้ง
หากทำแล้วรู้สึกสบายไปถึงดวงตาถือว่าใช้ได้ เป็นการช่วยเปิดเส้นลมปราณ

หากให้คนอื่นช่วยคลึงให้ เราควรยิ่งผ่อนคลายศีรษะและดวงตา
ในท่านอนราบ
ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดคือ
จะรู้สึกขนลุก หรือน้ำตาไหล แสดงว่าลมปราณเส้นนี้ทะลวงได้แล้ว
น้ำตาที่ไหลเอ่อออกมา จะช่วยป้องกันต้อต่างๆ ได้ ลองถามคนที่เป็นต้อแล้วดูสิครับ
ว่าก่อนเป็นตาเขาแห้งแค่ไหน

"สิ่งงดงามทั้งหลายในโลก
ล้วนเป็นหนี้แก่ ดวงตาทั้งสิ้น..."

ดูแลกันและกัน
ด้วยเคล็ดลับดีๆ
ทุกๆ วันนะครับ

ราตรีสวัสดิ์

"ความรู้โบราณ อายุนับพันปี
ถ่ายทอดผ่านร้อยชั่วคน
แต่บางคน...ชั่วชีวิต กลับมิเคยได้รู้..."
โดย ผีเสื้อหน้าหยก

เคล็ดลับจากศาสตร์โบราณ เพื่อคนยุคใหม่
Facebook คันฉ่องสุขภาพ

ขอบคุณรูปจาก www.bleary-eyes.com

น้ำมันดีกินอย่างไร ไม่ให้อ้วน ไม่ให้เป็นสิว ไม่ให้ผิวมัน



น้ำมันปลา เลซิติน น้ำมันมะพร้าว น้ำมันจมูกข้าว...
กินแล้วร่างกายต้องจัดการให้ได้หมด 
จึงจะช่วยเสริมสร้างร่างกายได้อย่างดียิ่ง

ในพวกตระกูลอาหารเสริมกลุ่มน้ำมันทั้งหมด
ร่างกาย จะย่อยน้ำมันได้ต้องอาศัย "น้ำดี"
น้ำดีจะช่วยแตกน้ำมันให้เป็นละอองเล็กๆ
เพื่อการย่อยและการดูดซึม

ซึ่งแตกต่างจากการย่อยอาหารที่ละลายน้ำได้

ดังนั้นก่อนกินน้ำมันเสริม คุณต้องดูแลถุงน้ำดีของคุณให้ดีๆ
เช่น อย่านอนดึกในช่วงเวลาน้ำดี ซึ่งเป็นเวลา 5 ทุ่มถึง ตี 1
ไม่เช่นนั้นจะอ้วนง่าย ท้องอืดง่าย น้ำมันไม่ย่อย
เพราะน้ำดีไม่ได้เอาไว้เพียงย่อยน้ำมันที่ดีของคุณเท่านั้น
มันยังต้องใช้ย่อยน้ำมันอื่นๆ ระหว่างวันอีกด้วย เช่น
น้ำมันทอดอาหาร (มักใช้น้ำมันปาล์ม)
น้ำมันจากผัดกระเพรา ผัดซีอิ้วต่างๆ

เมื่อน้ำมันมากเกินไป ทางเดินอาหารของคุณก็จะเลอะน้ำมัน
เหมือนกับ คุณเอามือจุ่มน้ำมัน แล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่าได้เท่านั้น
วันละสามมื้อ คุณว่าน้ำมันมันจะล้างออกได้อย่างไร
ลองกลับไปดูที่ครัวก็ได้ว่า เลอะแค่ไหนแล้วล้างออกยากแค่ไหน


ข้อแนะนำ เพื่อให้คุณกินน้ำมันและไม่อ้วน ไม่เป็นสิว ไม่ผิวมัน
1. อย่ากินอาหารเสริมประเภทน้ำมันก่อนนอน
เพราะร่างกายต้องการการพักผ่อน น้ำดี และ ตับ
ต้องการพัก ตั้งแต่ 5 ทุ่มแล้ว ควรให้เวลาก่อนประมาณ
2-4 ชั่วโมง ควรงดอาหารหวานและมัน หากต้องการลดความอ้วน

2. หากกินแล้วมีอาการร้อนใน ต้องหยุด เพราะ
อาหารกลุ่มน้ำมันเหล่านี้ ต้องการน้ำอย่างมาก
อย่างน้อยๆ ก็น้ำดีนี่แหละที่ต้องเอาไปใช้
หากคุณนอนดึกหลังห้าทุ่มด้วยแล้ว ยิ่งร้อนง่ายใหญ่เลย
เพราะเวลานั้นช่วงเวลาของถุงน้ำดี ไม่ได้พักผ่อน
จะเกิดการสะสมไขมัน และเป็นสิวได้ง่าย

3. หากคุณต้องการจะได้ผลดีจริงๆ คือคุณควรงด น้ำมันเลว
ไขมันเลว เช่น ไขมันจากสัตว์พวก หมู เป็ด ไก่ กินมันๆ เกิน
อาหารทอดที่มาจากน้ำมันเก่า ทอดซ้ำแล้วซ้ำอีก
เพราะร่างกายจะได้เอาไปจัดการน้ำมันดีๆ ที่คุณกินเข้าไป
ให้ไปซ่อมแซมเซลล์ โดยมิต้องมาจัดการทั้งน้ำมันดี
และน้ำมันเลวในคราวเดียวกัน

"จะบำรุงด้วยของที่ดีที่สุด...
ต้องกินในเวลาที่เหมาะสมที่สุด"

ขอเพียงร่างกายพร้อม...
น้ำเปล่าสักแก้ว ยังกลับรักษาโรคได้"

แบ่งปันเคล็ดลับนี้ออกไป เพื่อคนที่คุณรักนะครับ

"ความรู้โบราณ อายุนับพันปี
ถ่ายทอดผ่านร้อยชั่วคน
แต่บางคน...ชั่วชีวิต กลับมิเคยได้รู้..."
โดย ผีเสื้อหน้าหยก

เคล็ดลับจากศาสตร์โบราณ เพื่อคนยุคใหม่
Facebook คันฉ่องสุขภาพ

ขอบคุณรูปจาก
info.muslimthaipost.com

เข้าใจ ความเป็นผู้หญิง


ธาตุน้ำ และ ดวงจันทร์
เรื่องราวเหล่านี้คงจะมีประโยชน์ 
ต่อคนที่คุณรัก...

จากเรื่องเมื่อเช้านะครับ "หงส์เหนือมังกร"
ไม่ว่าวีรสตรีจะยิ่งใหญ่เพียงใด
ก็ต้องอยู่ภายใต้กฎธรรมชาติเช่นกัน
คือ"การมีประจำเดือน"

อิทธิพลของ "ดวงจันทร์" ที่โคจรรอบโลกของเราอยู่
ส่งผลต่อธาตุน้ำในโลก ทุกๆโมเลกุล จึงทำให้เกิดน้ำขึ้นน้ำลง และส่ิงมีชีวิตทุกๆชีิวิตบนโลกใบนี้

สำหรับมนุษย์ ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูง และมีธาตุน้ำอยู่มากกว่า 70%ของร่างกาย
ไม่อาจหลีกพ้นอิทธิพลของดวงจันทร์ไปได้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อ เลือด น้ำเหลือง ฮอร์โมน ทุกๆสิ่ง ทุุกๆอย่างที่ประกอบด้วยน้ำทั้งหมด ก็ตกอยู่ภายใต้แรงดึงดูดด้วยกันทั้งสิ้น

มนุษย์เพศหญิงที่สมบูรณ์แบบ จะมีประจำเดือน สอดคล้องกับเวลาของการโคจรของดวงจันทร์ คือ 28 วัน

สำหรับผู้หญิงที่ประจำเดือนมาเร็วและมาช้ากว่านี้ สะท้อนให้เห็นว่าชีวิตยังไม่สอดคล้องกับธรรมชาติ (ซึ่งเป็นส่ิงที่ควบคุมไม่ได้เสมอไป เพราะแต่ละคนมีจังหวะชีวิตความถี่ที่แตกต่างกันเป็นธรรมดา)

ธาตุน้ำเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความแปรปรวน อย่างมาก
เวลาผู้หญิงมีประจำเดือน จะส่งผลให้มีการแปรปรวนทางด้านอารมณ์สูง

สำหรับคนที่มีปัญหาปวดประจำเดือนอย่างมาก ปรกติจะใช้การกดจุด ซานอินเจียว
คือจุดที่เส้นหยินตัดกันสามเส้น จุดนี้จะอยู่เหนือตาตุ่มด้านใน 3 นิ้ว (ให้ใช้นิ้วชี้ กลาง นาง ก้อย เรียงกัน ตรงยอดตาตุ่ม ถือว่าพอดีเป๊ะ สำหรับคนๆ นั้น) อยู่ด้านหลังของกระดูกหน้าแข้ง เวลาปวดประจำเดือนให้ เพื่อนอีกคน กดปล่อย กดปล่อย พอเจ็บ
ความเจ็บ จากท้องน้อย จะค่อยๆ ไหลลงมาแล้วหายไป หากกดได้ถูกต้องนะครับ

การกดจุดไม่ควรกดเอง เพราะเราต้องการความผ่อนคลายให้ได้มากที่สุดเวลาถูกกด
ดังนั้น หากมือหนึ่งกด มือนั้นก็เกร็ง จะไม่ค่อยได้ผล
เราต้องอาศัยคนใกล้ตัวช่วยกดจุดให้นะครับ

"ดาวแสนไกลบนฟากฟ้า
ฤาจะมีอำนาจเกินกว่า
คนใกล้ตัวเราไปได้"

ดูแลกันให้ดีด้วยการ...
แบ่งปันเคล็ดลับนี้ออกไป เพื่อคนที่คุณรักนะครับ

ราตรีสวัสดิ์ครับ ทุกคน

"ความรู้โบราณ อายุนับพันปี
ถ่ายทอดผ่านร้อยชั่วคน
แต่บางคน...ชั่วชีวิต กลับมิเคยได้รู้..."
โดย ผีเสื้อหน้าหยก


เคล็ดลับจากศาสตร์โบราณ เพื่อคนยุคใหม่

Facebook คันฉ่องสุขภาพ

ขอบคุณรูปภาพจาก www.thailandexhibition.com

หงส์ เหนือ มังกร...



เมื่อหยางเกิดในหยิน...แข็งเกิดในอ่อน...
พระนางบูเช็กเทียน จักรพรรดินีแห่งจีน 
จึงถึงกำเนิดขึ้น...

ลักษณะที่สำคัญของพญาหงส์คือ
1. โหนกแก้มที่สูงของเพศหญิง
ดูโหนกนูนอิ่มเอิบ
บ่งบอกถึงความเป็นที่หนึ่ง
2. หางตาเชิดขึ้น บ่งบอกถึงความฉลาด ปราดเปรื่อง
3. ดวงตาแจ่มชัดเป็นประกาย บ่งบอกถึง พลังแห่งชี่ภายในที่เต็มเปี่ยม

เธอเหล่านั้นไม่ชอบให้ใครมาบงการทั้งสิ้น
มีความคิดเป็นของตัวเองอย่างสูง
และเธอมักทำได้ดีด้วย

หากคุณพบหรือได้เข้าใกล้คนเหล่านี้
คุณต้องปล่อยให้เธอจัดการ
เธอจะจัดการสิ่งต่างๆ ได้ดีที่สุด
คุณเพียงแต่ให้การสนับสนุนเธอ
และให้คำปรึกษาในยามที่เธอต้องการ
ชั้นเชิงของเธอ ไม่ด้อยไปกว่าใครอย่างแน่นอน

อ่านจบแล้วก็ลองสังเกต กันดูนะครับว่า พญาหงส์ อาจจะอยู่ใกล้ๆตัวคุณก็เป็นได้


"ไม่ว่าเพศใดในโลก เพศแม่นั้นให้กำเนิด...
เราอาศัยกันและกัน ใยต้องแบ่งแยกหงส์และมังกร..."

"ความรู้โบราณ อายุนับพันปี
ถ่ายทอดผ่านร้อยชั่วคน
แต่บางคน...ชั่วชีวิต กลับมิเคยได้รู้..."
โดย ผีเสื้อหน้าหยก

เคล็ดลับจากศาสตร์โบราณ เพื่อคนยุคใหม่
Facebook คันฉ่องสุขภาพ
ขอบคุณรูปภาพจาก www.weloveshopping.com

ยามอกหัก... คุณเป็นแบบไหน?


ยามอกหัก...
บางคนอ้วนขึ้นแต่บางคนกลับผอมลง...
คุณเป็นแบบไหน?
เข้าใจตัวเอง ก่อนลดน้ำหนัก

บางคนอกหัก แล้วกินแหลกลาน
เพราะอารมณ์อกหัก เจือปนไปด้วยความโกรธ "ความแค้น"
อย่างนี้จะเป็นชี่เกิน...
ทำให้ต้องกินเพื่อผ่อนคลาย
คนกลุ่มนี้จะกินเก่งขึ้น ในยามอกหัก
อยากไประบายกับเพื่อนฝูงถึงความเลวร้ายของศัตรูหัวใจ...
บางคนก็มาระบายกับ Facebook เนี่ยแหละครับ
ระบายชี่ที่มันเกินออกไป ให้มันหมดสิ้นจากหัวใจของเขา

บางคนอกหัก แล้วกลับกินไม่ลง
เพราะอารมณ์เจือปนไปด้วย "ความน้อยใจ"
อย่างนี้จะเป็นชี่พร่อง...
ทำให้ถุงน้ำดีเหี่ยว น้ำดีเป็นตัวช่วยแตกไขมัน
กินอะไรก็อร่อยเพราะน้ำดีของเรา
พอเกิดความผิดปรกติต่อเส้นลมปราณถุงน้ำดี
ทำให้เรากินข้าวไม่อร่อย กินข้าวไม่ลง
ไม่อยากไปเจอหน้าใคร อยากอยู่เงียบๆ คนเดียว
เพื่อนๆ โทรไปก็ไม่รับสาย Facebook ก็ไม่เข้า
หายหน้าหายตาไปเลย


ข้อแนะนำก่อนนอนคืนนี้นะครับ
ลองระลึกก่อนว่าเราเป็นคนประเภทไหน
หากเป็นคนประเภทที่หนึ่ง เราค่อนข้างจะชี่เกิน
ให้คุมอาหารไว้ก็พอ เพราะการเผาผลาญเราดีอยู่

หากเป็นคนประเภทที่สอง เราค่อนข้างจะชี่พร่อง
ให้กระตุ้นจุดมิ่งเหมินให้กลับมามีกำลัง
ตามลิงค์เลยครับ
http://www.facebook.com/photo.php?fbid=155833024579039&set=a.153415624820779.1073741828.152788904883451&type=1&theater

ประเภทที่สาม คือ เคยโกรธมาก่อน เคยแค้นมาก่อน ตอนหลังๆ กลับเป็นคนหงอยง่ายมากเลย น้อยใจก็ง่าย พอเจอเรื่องแบบนี้ อย่างนี้เรียกว่า "ไฟลุกมาก จนมอดดับ"
เรียกว่า"แค้นมาก จนตรอมใจ" เข้าทำนอง สุดหยางมีหยิน สุดหยินมีหยาง
เข็ดกับความรักไปอีกนาน กลุ่มพวกนี้ก็ต้องกระตุ้นจุดมิ่งเหมินให้กลับมาเช่นกัน
อย่าลืมนะครับ จุดนี้ มีชื่อแปลว่า จุดประตูแห่งพลังชีวิต มันแก้ปัญหาความรู้สึกอกหักได้เช่นกัน
และมันสามารถกระตุ้นให้อีกครึ่งหนึ่งของชีวิตคุณ กลับคืนมาหาเจ้าของมันได้...

ราตรีสวัสดิ์ครับคืนนี้

"คงมีแต่ ความรักเท่านั้น...
ที่ทำให้ใครบางคน...เป็นได้ทั้งมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร"

"ความรู้โบราณ อายุนับพันปี
ถ่ายทอดผ่านร้อยชั่วคน
แต่บางคน...ชั่วชีวิต กลับมิเคยได้รู้..."
โดย ผีเสื้อหน้าหยก

เคล็ดลับจากศาสตร์โบราณ เพื่อคนยุคใหม่
Facebook คันฉ่องสุขภาพ

ขอบคุณรูปภาพจาก wedding.kapook.com

Monday, March 25, 2013

คนอ้วนสองประเภท


อ้วนแบบเย็น กับอ้วนแบบร้อน...

คนอ้วนแบบแรก จะเป็นคนสบายๆ
การเผาผลาญต่ำๆ ใจดี ใจเย็น
คุณจะชอบทำอะไรก็ได้ให้ตัวเองสบาย ไม่บังคับตัวเอง
เพราะมันไม่ใช่คุณเลย วันนี้คุณมีเรื่องให้ทำเยอะมากแล้ว
อยากจะพักผ่อนสักหน่อย
มันเหนื่อยใจมากกับการลดความอ้วน
หากคุณเป็นแบบที่ว่านี้...
คุณต้องกระตุ้นการเผาผลาญให้กลับคืนมา
เพื่อให้ร่างกายกลับมาเร่าร้อนอีกครั้ง
ผมแนะนำ ลองกระตุ้นจุดมิ่งเหมินดู
ลองอ่าน
เรื่องเผาไขมันดูนะครับ
ผมเตรียมไว้ให้คุณแล้วครับ ไม่ต้องเหนื่อยไปค้นหาอีก

http://www.facebook.com/photo.php?fbid=155833024579039&set=a.153415624820779.1073741828.152788904883451&type=1&theater

อ้วนแบบที่สอง คือ อ้วนแบบร้อน เหงื่อแตกง่ายมาก
หงุดหงิดง่าย คิดเร็ว ทำเร็ว พูดเร็ว ร่างกายเร่าร้อน
ต้องการพลังงานมาก ทำให้เวลากิน ก็รีบกินมากเกิน
จนทำให้อาหารเข้าไปอยู่ในร่างกายมากเกินควร
เวลาหิวจะหิวจัด เวลาไม่กินก็ไม่กิน

อาหารที่มากเกินไป จะถูกเผาผลาญเก็บไว้เป็นน้ำตาล และไขมัน
ของคุณจะสะสมตามตัวไว้ใช้ให้ความอบอุ่นในฤดูหนาวครับ

พวกนี้บางคนมักมาจากเป็นคนที่ผอมๆ อยู่ดีๆ
แล้วก็กลายมาอ้วนลงพุงเลย
นานวันเข้าน้ำหนักก็ขึ้นแบบฉุดไม่อยู่
เพราะไม่เลิกนิสัยกินเร็ว...อิ่มช้า

หากคุณเป็นคนกลุ่มนี้ แนะนำให้เร่ิมจากการเคี้ยวช้าๆ
แล้วคุณจะอิ่มเร็วขึ้น เนื่องจากการเผาผลาญของคุณดีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
เพียงใส่ใจกับการกินเท่านั้นเอง ง่ายกว่าพวกแรกมากนัก
แต่!!!! คนอ้วนแบบร้อนนี้ มักเป็นคนใจร้อนด้วย
คุณต้องใช้ความอดทนต่อความเชื่องช้าของขีดกิโลที่ลดลง
ไม่ต้องไปชั่งมันเช้าเย็นหรอก

"ยังไม่เสร็จศึก อย่าเพิ่งนับศพทหารครับ"

"ความรู้โบราณ อายุนับพันปี
ถ่ายทอดผ่านร้อยชั่วคน
แต่บางคน...ชั่วชีวิต กลับมิเคยได้รู้..."
โดย ผีเสื้อหน้าหยก

เคล็ดลับจากศาสตร์โบราณ เพื่อคนยุคใหม่
Facebook คันฉ่องสุขภาพ

ขอบคุณรูปภาพจาก

http://men.mthai.com/uploads/manager/imadd/220609_1.jpg

พินิจดวงตา... วาจาพิฆาต... คมกระบี่อยู่ที่ลิ้น...


โดยทั่วไป คนเราจะมีหัวตากลม
ลองเพ่งไปที่หัวตาของเพื่อนคุณดู
จะพบว่าที่สุดของหัวตาจะมีลักษณะเป็นติ่งเว้ากลมๆเล็กๆ
นั่นคือหัวตาของคนทั่วไป

ถึงแม้บางคนจะมีดวงตาแหลมเรียวแบบคนจีนก็ตาม...
ก็ไม่ใช่ทุกๆคนที่จะมีหัวตาแหลมคมดุจเหยี่ยวได้
มีคนบางจำพวกเท่านั้นที่มีหัวตาแหลมดังภาพ
ลักษณะเช่นนี่จะทำให้พลังชี่จากตาไหลลงสู่ลิ้น

ดวงตาเป็นที่รวมแห่งพลังชี่หลายเส้น
เมื่อกระแสชี่ทั้งหลายไหลมาที่ตา
จากตาไปสู่ลิ้น... จะทำให้ผู้นั้นมีวาจาเป็นอาวุธ
พูดแทงทะลุถึงใจผู้คนได้
วาจาเจ็บแสบ ในยามโกรธ
ต้องระวังคำพูดเอาไว้
ใช้ในยามจำเป็นเท่านั้น

เหมือนกระบี่ดีเลิศเพียงใด
แต่ก็มีสองคมเสมอ....

วาจาขงเบ้ง...
ทำลายทัพ"โจโฉ"ร้อยหมื่น เพียงแค่ยุแหย่ซุนกวน...
ฆ่า"อองลอง"ให้ตาย...โดยมิต้องรบ...
คงมีแต่ "สุมาอี้" เท่านั้นที่อาจทนวาจาของเขาได้...

และนี่ก็คือตัวอย่างของความน่ากลัวของลิ้นที่ยาวเพียงสองนิ้วเท่านั้น
สิ่งที่คุณจะทำได้เมื่อเจอคนเหล่านี้ก็คือ
"เอาเขามาเป็นพวกซะ"
เช่นเดียวกันกับการกระทำอันชาญฉลาดของเล่าปี่นั่นเอง

"ความรู้โบราณ อายุนับพันปี
ถ่ายทอดผ่านร้อยชั่วคน
แต่บางคน...ชั่วชีวิต กลับมิเคยได้รู้..."
โดย ผีเสื้อหน้าหยก

เคล็ดลับจากศาสตร์โบราณ เพื่อคนยุคใหม่
Facebook คันฉ่องสุขภาพ

Sunday, March 24, 2013

กระตุ้นต่อมหิวน้ำ... สำหรับคนที่ไม่ชอบดื่มน้ำ...



ผิวแห้ง ผื่นแพ้ รังแค คันเรื้อรัง...เพราะขาดน้ำ!!!

น้ำคือสสารแห่งชีวิต...

เด็กถ้าขาดน้ำ จะเป็นภูมิแพ้ได้ง่าย ผิวจะแห้ง ท้องจะผูก
วัยรุ่น หากขาดน้ำ ความจำจะสั้น เป็นสิว ผิวมัน
ผู้ใหญ่วัยทำงาน หากขาดน้ำ จะล้าง่าย ตาแสบพร่าไม่สู้แสง

วิธีเช็คว่าร่างกายของคุณมีน้ำเพียงพอหรือไม่
ให้ดูที่ริมฝีปาก ว่าลอกร่อนหรือเปล่า
เพราะริมฝีปาก ทวารหนักและทางเดินอาหาร
ถูกสร้างขึ้นมาแรกๆพร้อมกัน
ตอนคุณอยู่ในครรภ์
มันจะเชื่อมต่อกัน หากภายในคุณแห้ง
ริมฝีปากคุณจะแห้งให้เห็น

หากคุณไม่ชอบดื่มน้ำ
ให้ลอง ฝึกกลืนน้ำลายบ่อยๆ สักสามครั้ง
ต่อมสติกระหายน้ำของคุณจะกลับคืนมา...

อย่าลืมบอกทุกคนที่คุณรักให้กลืนน้ำลายสามครั้ง นะครับ
แล้วเขาจะมองหาน้ำดื่มเอง โดยมิต้องบังคับกันเลย

"เพียงแค่มิรู้ ชีวิตก็มิอาจสมบูรณ์..."

แบ่งปันเคล็ดลับนี้ออกไป เพื่อคนที่คุณรักนะครับ
ผีเสื้อหน้าหยก
ติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่
facebook คันฉ่องสุขภาพ
และ http://inno4health.blogspot.com/

ขอบคุณรูปภาพจาก
http://www.etftrends.com/2013/01/water-etfs-rally-to-multiyear-highs/

วันนี้ อากาศร้อนมากกก..... ร้อนตับจะแตก....



จีนโบราณกล่าวถึงตับว่าเป็นอวัยวะธาตุไม้
เหมือนมันเลยลุกเป็นไฟได้เลย
อารมณที่ตับควบคุมจึงเป็นอารมณ์โกรธครับ
อวัยวะคู่ของมันก็คือถุงน้ำดีนั่นเอง
มันจึงมี พวก "บ้า...ดีเดือด" ไงล่ะครับ

แล้วรู้ไหมครับว่า อารมณ์แบบไหนที่เป็นคู่ปรับของอารมณ์โกรธ
สามารถข่มอารมณ์โกรธได้อยู่หมัดเลย

ขอเชิญเหล่าจอมยุทธทั้งหลาย
เข้ามาเดากันนะครับ

เผยความลับโบราณ โดย ผีเสื้อหน้าหยก

ติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่
facebook คันฉ่องสุขภาพ
และ http://inno4health.blogspot.com/

ขอบคุณรูปจาก
http://www.kpbs.org/news/2012/sep/13/hot-weather-coming-san-diego/

นอนมากไปก็เสื่อม...นอนน้อยไปก็โทรม



อยากดูดี... แต่นอนไม่เป็น?

นอนยังไงเรียกว่าพอ(ดี)

คนที่นอนมากเกินไป จะเกิดอาหารมึนศีรษะ
คาร์บอนไดซ์ออกไซด์จะสะสมในกระแสเลือดเป็นอย่างมาก
ทำให้เลือดเป็นกรด เกิดอนุมูลอิสระมากขึ้น
ร่างกายเสื่อมลงเร็ว
ควรนอนพอจนตื่น... อย่านอนจนมึน...

การที่เรานอนน้อยเกินไป จะทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย
หัวใจต้องเต้นเร็วเพื่อสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกายโทรมๆของเรา
ทำให้บางคนมีอาการตึงตาร่วม หนักศีรษะร่วมด้วย
บางรายความดันขึ้น ปวดศีรษะ

เทคนิคเช็คดูว่านอนพอหรือเปล่า

ด้วยการเอาฝ่ามือ อ้อมไปจับหลังคอ
หากสัมผัสแล้วหลังคอร้อนกว่ามือ แสดงว่าคุณนอนไม่พอ
เพราะเลือดวิ่งไปเลี้ยงศีรษะมากเกินไป
มากกว่าที่ปลายมือของคุณ

มีคำกล่าวว่า "หัวเย็น เท้าอุ่น ชีวิตยั่งยืน"
ปลายมือ ปลายเท้าควรอุ่นมากกว่าศีรษะ
หากศีรษะร้อนกว่า จะรู้สึกไม่สบาย เหมือนจะเป็นไข้

"การนอนก็เหมือนเช่นอาหาร...
มากหรือน้อยไป...ก็เกิดโทษเช่นกัน"

เขียนโดย ผีเสื้อหน้าหยก

ติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่
facebook คันฉ่องสุขภาพ
และ http://inno4health.blogspot.com/

ขอบคุณรูปจาก

http://www.fanpop.com/clubs/disney-classic-era-leading-females/images/24456448/title/sleeping-beauty-photo

Saturday, March 23, 2013

ไม่อยากเป็นคนขี้กลัว อย่าปล่อยให้มือเท้าเย็น



หากเท้าเย็นไตจะสูญเสียพลังชี่
ไตเกี่ยวข้องกับอารมณ์กลัวเป็นหลัก
อวัยวะคู่ของไตคือกระเพาะปัสสาวะ

เคยได้ยินไหม ว่ากลัวจนตัวสั่น
สั่นหนาวสะท้านขึ้นมาทันใด
มือเท้าเย็นเฉียบ
ในบางรายปัสสาวะราดเลย

เมื่อชี่ไตเริ่มพร่องสังเกตได้จาก
1. ใต้ตาคล้ำเสมอ
2. ง่วงนอนเวลาไตมาก (17:00-19:00) แล้วจะตื่นหลังจากนั้น
3. ผิวแห้ง ผมแห้ง ผมหงอก ร่วงง่าย ความจำไม่ดี สมาธิสั้น
5. หูแดงกว่าใบหน้าแสดงว่าความร้อนในร่างกายสูง ไตทำงานหนัก


เคล็ดลับเกี่ยวกับไต
1. อุ่นไต แช่น้ำอุ่นมือและเท้าในช่วงเวลาไต คือ 17:00-19:00น. ให้ไตได้รับชี่อุ่นทุกๆวัน
2. ถนอมไต ด้วยการอย่านอนดึกเกิน 4 ทุ่ม ประมาณ 1สัปดาห์จึงเห็นผล
3. บำรุงไต มียาจีนที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ใช้เพื่อบำรุงไต ก็คือ ลิ่วเว่ยตี้หวงหวาน
ทานแล้วจะช่วยฟื้น จิงในร่างกาย เพศชายหากสูญเสีย จิงมากเกินไป
ร่างกายจะร้อนง่าย ใจร้อน ขาดสมาธิ ผิวแห้ง ผมแห้ง ผมหงอกเร็ว
ส่วนเพศหญิงต้องบำรุง เลือดเอาไว้ เพราะสูญเสียเลือดทุกๆเดือน ร่างกายเย็นง่าย

จิง คือ น้ำแห่งชีวิต
ชี่ คือ ลมแห่งชีวิต

ชายเป็นหยาง
ควรถนอมหยินในกายเอาไว้ มิเช่นนั้นจะเร่าร้อนดั่งไฟ...

หญิงเป็นหยิน
กลับควรถนอมหยางเอาไว้ มิเช่นนั้นจะเย็นเช่นปลาตาย...

เขียนโดย ผีเสื้อหน้าหยก

ติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่
facebook คันฉ่องสุขภาพ
และ http://inno4health.blogspot.com/

ขอบคุณภาพจาก
http://my.dek-d.com/sasikarn895/funnyquiz/view.php?id=30953

เก็บพลังยามหลับใหลในห้องนอนของคุณ



ซูสีไทเฮา ครอบครองแผ่นดินกว้างใหญ่
แต่ที่นอนกลับเพียงแค่พอตัว...

นั่นเป็นเพราะชาวจีนถือว่า
ที่นอนต้องห่อหุ้มกายดุจรังนก
เพื่อเก็บพลังยามเรานิทรา

ห้องนอนที่ไม่ดีตื่นขึ้นมาจะล้า ตาแห้งคอแห้ง เพลีย

ข้อห้ามที่สำคัญสำหรับห้องนอน

1. สีของห้องนอนห้ามเข้มเกินไป
เพราะจะดูดกลืนพลังจนหมด
หากเป็นสีเข้มเกินไป เช่น ดำ เทา น้ำตาล
จะทำให้ชี่ธาตุน้ำเด่น ส่งผลให้ธาตุในตัวถูกข่มไว้
ถือว่าทำลายความตั้งใจ พยายาม จะนอนทั้งวันก็ได้
กลายเป็นคนขี้เกียจไป

2. สีห้องนอนห้ามอ่อนเกินไป
หากเป็นสีอ่อนมากไป เช่นสีขาวโพลน
จะสะท้อนพลังจนสิ้น
จะทำให้ร่างกายล้าง่าย ดูเหมือนเวิ้งว้าง
เหมาะสำหรับห้องที่แคบ แต่ก็ไม่เหมาะกะห้องนอนนัก
เพราะเหมือนนอนอยู่กลางแจ้ง
(เหมือนในห้่าง เขาจัดไฟส่องจ้า แวววาวไปหมด
ทำให้เราสูญเสียชี่ในตัว ทำให้ตัดสินใจจ่ายเงินได้ง่าย
บางคนทำงานในห้างนานๆจะล้า เพราะความจ้าของสถานที่)

3. ห้ามแอร์พัดลงเท้า จะเสียพลังชี่ทางปลายเท้า
ไตจะอ่อนแอ ควรใส่ถุงเท้านอน และทำให้อบอุ่น
ยิ่งอายุมากจำเป็นอย่างยิ่งต้องเก็บพลังงานไว้เพื่อดูแลตนเอง

หากตื่นมาแล้วเพลีย
แนะนำแง้มหน้าต่างไว้สักนิดเพื่อให้อากาศถ่ายเทบ้าง
หาใบเตยสักกำใส่ไว้ในห้องนอนเพื่อเพิ่มความชุ่มชื่น


"พลังงานในกายมีจำกัด มักจะพร่องอยู่สมอ
เก็บน้ำไว้ในอุ้งมือ ยังง่ายดายกว่ายิ่งนัก..."


เขียนโดย ผีเสื้อหน้าหยก

ติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่
facebook คันฉ่องสุขภาพ
และ http://inno4health.blogspot.com/

ขอบคุณรูปจาก
http://www.naturalwellnessgirl.com/2012/10/chew-on-this-why-chewing-food-thoroughly-is-important/

ไม่มีใครรู้ เวลาที่เหลืออยู่...


"กลืนข้าว เคี้ยวน้ำ" ลดอ้วน อิ่มเร็ว


คือการเคี้ยวข้าวให้ช้าจนอาหารกลืนได้เหมือนน้ำ
และดื่มน้ำค่อยๆ ดื่มดุจต้องเคี้ยวก่อน

จะช่วยทำให้สมองรับรู้ว่าเรากินอะไรไปบ้าง
เพราะจะช่วงทำให้เราอ่ิมเร็วขึ้นอีกด้วย


โดยทั่วไป สมองของเรากว่าจะรู้ว่าอิ่มก็ผ่านไปแล้วครึ่งชั่วโมง
คนที่อ้วนง่าย จะสวาปามส่ิงที่อยู่บนโต๊ะอย่างรวดเร็ว
จนสมองไม่ทันได้รับรู้ว่าได้กินอะไรเข้าไปบ้าง
พวกนี้ถ้ายังผอมอยู่ จะดูเหมือนปอบเข้า แต่เมื่ออายุมากขึ้น
จะอ้วนอย่างรวดเร็ว

ถึงกับมีคำเก่าแก่สำหรับการกินที่มากเกินไป คำหนึ่งเกิดขึ้นก็คือ
แ-ด-ก นั่นเอง ซึ่งจริงๆ แล้ว ก็คือ การต้องเอาไม้แดกเข้าไปเวลาต้องการยัดอะไรสักอย่างที่มันแน่นแล้ว

การกินเร็วกลืนเร็วยังมีผลร้ายยิ่งกว่านั้น
ทำให้กระเพาะเท่านั้นที่ต้องรับภาระหนักอึ้ง
กรดในกระเพาะก็ออกมามากขึ้น เพราะอาหารไม่ละเอียด
ส่งผลต่อไปให้เป็นกรดไหลย้อนง่ายขึ้น
เวลาหิวก็จะหิวจัด เพราะร่างกายเคยชินกับการกินทีเดียวครั้งละมากๆ
กินเสร็จก็จะเหมือนงู อยากจะนอนจนกว่าจะย่อยหมด

"อาหารถ้าย่อยไม่หมดในร่างกาย
ก็ไม่ต่างอะไรกับยาพิษ...ที่กินได้"


เขียนโดย ผีเสื้อหน้าหยก

ติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่
facebook คันฉ่องสุขภาพ
และ http://inno4health.blogspot.com/

ขอบคุณรูปจาก
http://www.naturalwellnessgirl.com/2012/10/chew-on-this-why-chewing-food-thoroughly-is-important/

ปลายนิ้วของคุณ "เกี่ยวทรัพย์"ได้หรือไม่ (มองเล็ก เห็นใหญ่ ตอนที่ 3)


ที่สุดแห่งชี่ในกาย คือปลายนิ้วมือและเท้า

ลองสังเกตปลายนิ้วชี้ นาง กลาง ก้อย ของแต่ละคนนะครับว่า
หากกางนิ้วจนสุดๆแล้ว ที่ส่วนข้อสุดท้ายของนิ้วจะมีลักษณะ"งุ้มเข้า"
แต่ในบางคนกลับ "เชิดออก"

คนที่มีปลายนิ้ว"งุ้มเข้ามา" ทิศทางของชี่ก็จะวกกลับเข้ามา
มีผลต่อจิตใจเรื่องของทรัพย์สมบัติ ที่เป็นเขาเป็นเจ้าของอยู่
คือ รักในสิ่งที่ครอบครอง อาลัยในทรัพย์สมบัติ ทิ้งของไม่ค่อยลง
มักเก็บส่ิงที่มีคุณค่าทางจิตใจเอาไว้ ไม่ว่าจะสำคัญหรือไม่ ดังนั้นเขาต้องการที่เก็บของที่เป็นระเบียบหน่อย เพราะมันจะเยอะขึ้นเรื่อยๆ ตามอายุ
หากเกิดการยื้อแย่งกันสุดท้ายมักไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ทำให้คนเหล่านี้เก็บทรัพย์ได้อย่างเหนียวหนึบไม่ว่าเขาจะมีมากหรือน้อยก็ตาม
หากปลายมือยิ่งแข็ง นิ้วโปนเห็นข้อนิ้ว คุณสมบัติ เกี่ยวทรัพย์นี้จะยิ่งเด่นชัดมากขึ้น

สำหรับคนที่มีปลายน้ิว "เชิดออก" หรือไม่ก็แค่ตรงๆ แต่ไม่งุ้มเข้ามา พวกนี้ปล่อยวางง่ายกว่า สุดท้ายก็ยอมให้ได้ เพราะชี่กระจายออก จึงต้องระวังเรื่องการใช้จ่ายเงินทองด้วย มักเป็นคนสบายๆ ไม่ชอบการยื้อแย่ง แข่งขัน หากมือยิ่งอ่อน นุ่มเรียวบาง ลักษณะนี้จะยิ่งเด่นชัดขึ้นอีกมาก

"ลำคลองคดเคี้ยว สายน้ำหรือจะตรงได้"


เขียนโดย ผีเสื้อหน้าหยก

ติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่
facebook คันฉ่องสุขภาพ
และ http://inno4health.blogspot.com/
ขอบคุณรูปจาก
http://www.thirdage.com/arthritis/8-arthritis-hand-exercises

จุดเผาไขมัน



สกัดจุดหยุดอ้วน ด้วยวิธีเพิ่มการเผาผลาญ

การเผาผลาญสำคัญที่สุด มากกว่าการสะกดจุดอิ่ม
เพราะธาตุไฟเพียงพอ... จึงอ้วนยาก...

คนมุ่งลดความอ้วน หากยิ่งกินน้อยลง ร่างกายก็ยิ่งเผาผลาญน้อยลงตามไป
เพราะคิดว่าอยู่ในภาวะขาดแคลน ดังนั้นการกระตุ้นจุดนี้
จึงป้องกันปัญหากลับมาอ้วนง่าย

จุดนี้ได้เคยกล่าวไปครั้งหนึ่งแล้ว มีชื่อว่า มิ่งเหมิน
อยู่บริเวณด้านหลังตรงกับสะดือด้านหน้า (ให้กลับไปดูโพส วันที่ 17 มีนาคม 2556 เรื่อง... หากคุณมีปัญหากินน้อยแต่อ้วนง่ายจริงๆแล้วละก็...ลองวิธีนี้ดู)

วิธีการกระตุ้นจุดนี้ คือ
1. ออกกำลังกายผ่านจุดนี้
เนื่องจากจุดนี้อยู่บริเวณเอวด้านหลัง เมื่อเราออกกำลังกาย
เราต้องให้จุดนี้ขยับเขยื้อน ยกตัวอย่างเช่น การเดิน(สำหรับผู้มีอายุ)
ก้าวขาให้ยาว เดินบิดเอว เหมือนนางแบบ หรือเหมือนเวลาที่เราต้องบิดเอว บนจานหมุนลดความอ้วนนั่นเอง
2. ออกกำลังกายที่จุดนี้โดยตรง
นอนราบ เหยียดขาคู่ มือแตะพื้น แล้วยกขาคู่ขึ้น ค่อยๆ ขึ้นตั้งฉาก เหมือนตัวแอล หากตั้งไม่ได้เอาเท่าที่ได้ ข้างไว้ นับ 1 2 3 แล้วเอาขาลง
ทำซ้ำ 3 ถึง 5 ครั้ง พอครบแล้ว หายใจผ่อนคลาย จะพบว่า ร่างกายควรอุ่นขึ้น เมื่อชำนาญแล้วสามารถเพ่ิมรอบได้

หากต้องการให้ได้ผลดีจริง แนะนำ งดดื่มน้ำเย็น จะช่วยให้ร่างกายเกิดสมดุลเร็วขึ้น

อ้วนเพราะเผาผลาญน้อย
ลดยากกว่า...อ้วนเพราะกินเก่ง

ผอมเพราะเผาผลาญมาก
เพิ่มน้ำหนักยากกว่า...เพราะกินน้อย



เขียนโดย ผีเสื้อหน้าหยก

ติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่
facebook คันฉ่องสุขภาพ
และ http://inno4health.blogspot.com/

ขอบคุณรปภาพจาก www.bloggang.com

พนักงานหลับตอนเที่ยง แข็งขันทั้งบ่าย


นั่งเรียนฟุบหลับ กระจ่างชัดในบทเรียน

หนังท้องตึงหนังตาหย่อน หลังกินข้าวเที่ยงเราจะเกิดอาการง่วนอน
ในรูปปลาดำขาวของหยินหยาง
จะเห็นปลายสีดำ ขึ้นตรง 11 นาฬิกาพอดี
หยินทารกจะก่อตัวขึ้นตั้งแต่ 11 โมง
หากเจ้านายเข้าใจในเรื่องของหยินหยาง ให้พนักงานได้พักสักงีบ
จะทำให้พนักงานสมองแจ่มใส ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
นักศึกษาก็จะเรียนรู้ได้ดีขึ้น

หลับในช่วงเวลานี้ ช่วยฟื้นฟูร่างกายและจิตใจได้อย่างมาก
ทำน้อย แต่ได้ผลมาก เพราะถูกช่วงเวลา



เขียนโดย ผีเสื้อหน้าหยก

ติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่
facebook คันฉ่องสุขภาพ
และ http://inno4health.blogspot.com/

ขอบคุณรูปจาก
https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgdaVvjdArUJiL-bH46qPgN6Pa4PF3BJbMzoLP3ZBbG9gennnak7gVacZyqyMtrshFPBqV4mHW0QAiscM7_rrv1ekj21OY96j3iHyAJJtjBSlXQBACs6VIPHwFrSAQ1MqfrStRhkSATuXEq/s1600/nap+at+work.jpg

คนมีวาสนา กับนิ้วนางและนิ้วชี้เท่ากัน (มองเล็ก เห็นใหญ่ ตอนที่ 2)



คนไม่มากที่มีนิ้วนางและนิ้วชี้เท่ากัน

อย่างที่ได้กล่าวไปแล้ว นิ้วชี้เชื่อมกับสมอง
นิ้วนางเชื่อมต่อกับหัวใจ

คนพวกนี้มักมีความเป็นผู้ใหญ่สูง มีความยุติธรรม
คือรักษาสมดุลระหว่าง เหตุผลกับอารมณ์ไว้ได้
ไม่ใช้เหตุผลถูกผิดอย่างเดียว หรือไม่ใช้อารมณ์ตัดสินอย่างเดียว
คนเหล่านี้จึงมีความสามารถเลี้ยงดูลูกน้องบริวารได้ เมื่อมีบริวารผู้คนมาก ทำอะไรก็สำเร็จได้ง่ายกว่าทำคนเดียว

ส่วนนิ้วกลางนั้นเป็นสัญญลักษณ์ของความเป็นผู้ใหญ่เพราะอยู่ตรงกลางระหว่าง เหตุผลกับอารมณ์ เส้นลมปราณที่ผ่านนิ้วนี้คือเส้นลมปราณเยื่อหุ้มหัวใจ
และเส้นบนฝ่ามือที่ลากยาวภายใต้นิ้วกลาง จึงถูกขนานนามว่า "เส้นวาสนา"

เส้นสายบนลายมือทั้งหลาย ก็มีชี่กระแสลมปราณไหลผ่านเช่นกัน ดุจสายน้ำที่จะไหลไปตามร่องน้ำเป็นธรรมดา
ทำให้เกิดศาสตร์แห่งการดูลายมือขึ้น
แท้จริงแล้วเกิดจากการเข้าใจอย่างลึกซึ้งของกระแสลมปราณในฝ่ามือนั่นเอง
ซินแสในสมัยก่อน จึงรู้ความนัยของดวงดาว บนฟากฟ้า จนถึงใฝหนึ่งเม็ดในร่มผ้า

ผู้มีวาสนา จะมีเส้นวิ่งผ่านกลางฝ่ามือใต้นิ้วกลางตามตำรา
และย่ิงหากมีความยาวนิ้วนางและนิ้วชี้เสมอกันแล้วไซร้
ยิ่งบ่งชี้ว่ามีความสมดุลของเหตุผลและอารมณ์มากเท่านั้น
มือที่อวบอิ่ม บ่งถึงความเต็มของชี่ ยิ่งมาก ยิ่งทรงพลัง
ชี่จึงส่งเสริมกันทั้งเส้นและลักษณะมือ
ทำให้ทำอะไรก็มีแต่คนช่วยเหลือสนับสนุน เนื่องจากความเป็นผู้ใหญ่รู้จักปกครองผู้คนโดยใช้ทั้งพระเดช(นิ้วชี้...)และ พระคุณ(นิ้วนาง...)ได้เป็นอย่างดี

วาสนาที่ฟ้าลิขิตแล้ว
แท้จริงแล้ว...คงกำเนิดจากวิสัยของตน

"รูปกายไม่ได้กำหนดจิตใจ
จิตใจก็ไม่ได้กำหนดรูปกาย
หากแต่ทั้งสองส่วนกำหนดกันและกัน
พินิจรูปกายจึงสะท้อนถึงจิตใจ"

เขียนโดย ผีเสื้อหน้าหยก

ติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่
facebook คันฉ่องสุขภาพ
และ http://inno4health.blogspot.com/

ขอบคุณรูปภาพจาก
http://news.mthai.com/world-news/110871.html

ทำไงดี... หยั่งงั้น ก็ไม่หลับ 2


เมื่อร่างกายของเราไม่รู้ว่าควรจะหลับกี่โมง
เราต้องกลับไปต้ังเวลาใหม่อีกครั้ง
โดยเราต้องโหดหน่อย ด้วยการตั้งนาฬิกาปลุกสักตีห้า...
แล้วขึ้นมาออกกำลังกาย ให้เหนื่อยล้ากันไปข้างนึง
วิธีนี้ก็เหมือนการที่เราไปต่างประเทศแล้วต้องปรับเวลา
ใช้ได้ผลดีนะครับ แต่ต้องอึดหน่อย
สามวันก็อยู่ตัวแล้วครับ

แต่สำหรับคนที่นอนไม่หลับเพราะ "คิดมาก" พวกนี้เรื่องยาวครับ
เพราะความร้อนจะเกิดขึ้นในร่างกายมากเพราะเนื่องจากสมองใช้พลังงานมาก
ในด้านความคิด ความร้อนที่มากเกินจะทำให้ปัสสาวะเหลือง ผิวแห้ง เกิดรังแค
และหิวบ่อย

วิธีการแก้ก็คือ "อย่าคิดมาก"เหมือนที่ทุกๆ คนบอก
แต่ถ้าทำได้ง่ายอย่างนั้นมันก็คงดี

ผมขอแนะนำอีกวิธีก็คือ ให้เหงื่อออกครับ เป็นวิธีการที่คลาสิกที่สุดแล้ว
เพราะการที่เราคิดอย่างเดียว เราใช้พลังการเผาผลาญมาก แต่เหงื่อไม่ออก
การเผาผลาญเหมือนยังไม่สมบูรณ์ แต่ถ้าเหงื่อออกเมื่อไหร่ เราจะค้นพบว่ามันผ่อนคลาย
ยิ่งเหงื่อออกมากจะยิ่งเพลียและหลับได้เองในที่สุด

(การเสียเหงื่อคือ "เสียชี่" แต่ในตัวเรามีความคิดฟุ้งซ่านมากมาย
นั่นคือ"ชี่เสีย"ครับ ต้องให้มันระบายออกไป)

ทีนี้เราจะระบายเหงื่อออกได้อย่างไร
ด้วยการออกกำลังกาย?
บางครั้งมันก็ ยาก...ไปสำหรับใครบางคน

ลองวิธีระบายชี่เสียแบบนี้ดูครับ
แช่เท้าด้วยน้ำอุ่นค่อนข้างร้อนครับ จนเหงื่อ ซึมออกมา
ร้อนจนขึ้นมาถึงท้องนะครับ ก็พอแล้ว ลองเอาไปทำดูนะครับ

เคล็ดลับก็คือ ระบายชี่เสียออกให้หมด เพื่อที่จะเข้าสู่สภาวะหลับได้ง่าย

"สายน้ำมีทั้งเน่าเสีย และใสสะอาด
ชี่ในตัวเราก็เฉกเช่นกัน"


เขียนโดย ผีเสื้อหน้าหยก

ติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่
facebook คันฉ่องสุขภาพ
และ http://inno4health.blogspot.com/

ขอบคุณรูปจาก men.mthai.com

ทำไงดี ...หยั่งงั้ย ก็ไม่หลับ



ในที่นี้จะเล่าถึงสาเหตุเพราะเนื่องจากนอนไม่เป็นเวลาก่อน
จนทำให้ร่างกายเกิดการแปรปรวน ซึ่งอาชีพเหล่านี้ ได้แก่คนที่ทำงานหนักเป็นช่วงๆ และได้พักเป็นช่วงๆ
นั่นก็รวมถึง ทั้งแอร์โฮสเตท หมอ พยาบาล ตลอดจนนักศึกษา รวมทั้งคนที่ต้องเดินทางบ่อยๆ

ก่อนอื่นเราต้องรู้ว่า
เวลาเรานอน เราจะหลับลึกดำดิ่งลงไปในหัวใจของเรา
จุดฝังเข็มที่ช่วยในการนอนหลับจึงใช้จุด เสินเหมิน (ประตูแห่งวิญญาณ)
บนเส้นลมปราณของหัวใจ

ดังนั้น อย่าทำให้หัวใจมันเต้นในช่วงที่เวลาเราจะนอนหลับ
เช่นไม่ควรดูอะไรที่ตื่นเต้น อ่านอะไรที่ตื่นเต้น หรือแม้แต่การออกกำลังกาย
คนส่วนใหญ่ไม่มีเวลา ชอบออกกำลังกายตอนดึกๆ กว่าหัวใจจะ Cool down ลงก็ดึกมาก หรือไม่ก็เพลียไปเลย อย่างนี้ถือว่าไม่ดีที่สุด

แล้วถ้าไม่ง่วงล่ะทำอย่างไร
ลองนี้เลยครับ ตำรับโบราณ นมอุ่นๆ ต้มกับน้ำขิง
ยิ่งนมสดได้ยิ่งดี เพราะนมมีสารชื่อ ทริปโทฟาน อยู่เป็นสารตั้งต้นของเซราโทนิน
ทำให้ร่างกายผ่อนคลาย หากคุณดื่มแล้วรู้สึกง่วง ให้นอนเลยนะครับอย่าฝืน
การที่ต้มกับน้ำขิง จะช่วงป้องกันท้องอืดอีกด้วย ลองเอาไปทำทานกันดู

แล้วถ้าหิวล่ะตอนดึกแล้วนอนไม่หลับ ควรกินอะไรไหม
ในกรณีนี้ควรกินครับ เพราะหากกระเพาะเราหิว มันจะเกร็ง ไม่ผ่อนคลาย
เส้นลมปราณกระเพาะนี้ยาวไปถึงใต้ดวงตาเลยนะครับ ดังนั้นหิวมันจะตาค้าง
เวลาอิ่มหนังตามันก็หย่อน ดังนั้น ควรกินอย่างน้อยน้ำข้าวก็ยังดี
ส่วนสาเหตุอื่นๆ จะเอามากล่าวในโอกาสต่อไปครับ

เขียนโดย ผีเสื้อหน้าหยก

ติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่
facebook คันฉ่องสุขภาพ
และ http://inno4health.blogspot.com/

ขอบคุณรูปจาก men.mthai.com

คนใจถึง วัดได้ที่นิ้วนางกับนิ้วชี้



นิ้วนางกับนิ้วชี้ของคุณใครยาวกว่ากัน

ได้มีการศึกษาเกี่ยวกับนิ้วนางและนิ้วชี้

สำหรับทารกแรกเกิด เพราะนิ้วของคนเราได้ถูกพัฒนา
มาตั้งแต่ในครรภ์มารดา ว่ามีความสัมพันธ์กับฮอร์โมนตัวใดบ้าง
เคยถึงกับมีการทำนายโดยการวัดนิี้ว เลยทีเดียว ว่าหากมีการแข่งขันกัน
ใครจะชนะ โดยเพียงวัดอัตราส่วนของนิ้วชี้และน้ิวนาง!

ในทางแพทย์แผนจีน ศึกษาลมปราณทั้งหกสาย ที่ผ่านปลายนิ้วของเรา
โดยที่นิ้วนางนั้นจะเป็นเส้นลมปราณหัวใจไหลผ่าน
หากคุณมีหัวใจที่แข็งแกร่ง นิ้วนางของคุณก็จะยาวกว่านิ้วชี้ ให้เห็นได้อย่างชัดเจน
คนกลุ่มพวกนี้ ชอบผจญภัย กล้าได้กล้าเสีย ไม่กังวลมาก ทำตามใจตนเองเป็นใหญ่มากกว่า ใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล และนิ้วนี้เองก็เป็นนิ้วที่คนใส่แหวนหม้ันเพื่อผูกพันความรู้สึกของคนทั้ง สองเข้าด้วยกัน ผ่านนิ้วแห่งอารมณ์นี้เอง

ส่วนนิ้วชี้นั้นค่อนข้างจะสัมพันธ์กับสมองมากกว่า จุดปวดหัวก็ใช้จุดเหอกู่ซึ่งอยู่่บนเส้นของแนวนิ้วชี้นี้รักษาได้

(นิ้วชี้นั้นจะมีเส้นลมปราณของลำไส้ใหญ่ พาดผ่าน และไปต่อกับเส้นลมปราณกระเพาะอาหารบริเวณใบหน้า ซึ่งสัมพันธ์กับสมองส่วนหน้า ความคิดและการตัดสินใจ)

ทำให้คนที่นิ้วชี้ยาวกว่า นิ้วนาง จะค่อนข้างมีความยับยั้งชั่งใจมากกว่า ทำตามเหตุผลมากกว่าอารมณ์ ยิ่งยาวกว่ามากเท่าไหร่จะยิ่งเป็นคนระวังมากเท่านั้น ทำอะไรตามลำดับ ตามเหตุผลที่ควรจะเป็น

ดังนั้น หากต้องการใช้คนตามแบบแผนโบราณแล้ว
เราต้องให้คนที่เป็นนิ้วนางออกลุย เพราะพวกนี้ใจถึง
และต้องอาศัยให้คนนิ้วชี้เป็นคนจัดการครับ เพราะพวกนี้มีจะมีระบบมากกว่า

ไแถมอีกนิดครับ ยิ่งนิ้วทั้งห้ายาว จะยิ่งตัดสินใจช้า
หากนิ้วสั้นมือหนา พวกนี้จะตัดสินใจเร็ว"


เขียนโดย ผีเสื้อหน้าหยก

ติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่
facebook คันฉ่องสุขภาพ
และ http://inno4health.blogspot.com/

ขอบคุณรปภาพจาก
http://news.mthai.com/world-news/110871.html

เน่าใน เป็นสิว ผิวไม่ใส เพราะดื่มน้ำไม่เป็น



แม้ว่าร่างกายของเราจะประกอบด้วยน้ำมากที่สุด
แต่บางส่วนของร่างกายก็ไม่ได้ต้องการน้ำตลอดเวลา

หลายๆคนคงเคยได้ยินมาบ้างว่า กินข้าวอย่าดื่มน้ำ ไม่เช่นนั้นท้องจะอืด
อาหารจะไม่ย่อย

เพราะว่ายามที่กระเพาะทำหน้าที่หลั่งน้ำย่อยซึ่งมีความเป็นกรดรุนแรง สามารถย่อยเนื้อได้ทั้งก้อนให้เป็นผุยผง หากเราดื่มน้ำเข้าไปจะไปละลายความเข้มข้นในของกรดน้ำย่อยให้น้อยลง

ผลจากการที่น้ำย่อยเจือจาง จะทำให้อาหารคลุกเคล้ากับกรดไม่ได้อย่างเพียงพอ
อาหารก็จะเกิดการเน่าเสีย และไปหมักหมมรวมกันที่ลำไส้ใหญ่ ยิ่งคนไหนท้องผูกแล้วยิ่งแล้วใหญ่ คงจะเน่าในไปอีกหลายวัน
ลำไส้ใหญ่ก็ทำหน้าที่ ดูดซึมน้ำกลับจากกากอาหาร จะได้รับสารพิษที่เกิดจากการเน่านั้น ของเสียที่เข้าไปสู่ร่างกาย จะก่อให้เกิดโรคภัยตามมา ร่างกายก็จะต้องขับออกทางอื่นอีก หนึ่งในช่องทางการขับของเสียก็คือ รูขุมขนบนผิวหนังของเรานั่นเอง
ดังนั้น ผิวของแต่ละคนก็จะสดใส ตามแต่สภาพความสะอาดภายในของแต่ละคน

สูตรการไม่ดื่มน้ำที่ดี ก็คือ
ไม่ดื่มน้ำก่อนกินอาหาร 15 นาที และหลังจากกินอาหาร 40 นาที และหากต้องการจะดื่มน้ำจริงๆ ดื่มได้เพียงครึ่งแก้ว ระหว่างรับประทานอาหารเท่านั้น

และหากดื่มน้ำเย็นอีก จะส่งผลให้ไฟกระเพาะดับ ร่างกายต้องดึงเอาเลือดมาอุ่นกระเพาะอีก พวกนี้จะเพลียมากกว่าปรกติ หลังจากกินข้าวไป (จากเดิมก็จะหลับคาโต๊ะอยู่แล้ว)

แต่หากปฏิบัติตามสูตรนี้ได้ ก็เก่งมากเลยนะครับ
เพราะความจริงอีกข้อหนึ่งที่ยังไม่ได้พูดถึงเลย ก็คือ อาหารที่เรากิน ต้องการน้ำอย่างมาก
เพราะ รสชาติของอาหารของเรา
มันเผ็ด!
มันเข้มข้น!
มันจัดจ้าน!
มันถึงใจ!
เอาแค่ตัวอย่างข้าวเหนียวส้มตำไก่ย่าง น้ำตก ก็พอ ไม่กินน้ำก็แปลกแล้ว และลองจินตนาการต่อไปอีกว่าดื่มได้แค่น้ำเปล่าครึ่งแก้วไม่เย็นเนี่ยนะ...
หากทานในห้องแอร์ก็ยังพอจะใจเย็นอยู่บ้าง แต่เวลาเที่ยงๆ คนแย่งกันกิน คงทำใจได้หรอก...

การบอกว่า "อย่ากินอาหารรสจัด" คงไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุด สำหรับชีวิตที่ต้องการรสชาติ
สิ่งที่อยากจะแนะนำก็คือ หาผลไม้ช่วยชีวิตครับ ผลไม้รถเข็นมีทุกที่ พวกเขาเหล่านั้นพร้อมช่วยชีวิตชาวออฟฟิส นิสิตนักศึกษาเสมอ สับปะรด และมะละกอ มีเอ็นไซม์่ช่วยย่อยได้เป็นอย่างดี ให้กินผลไม้ช่วยย่อยนี้ กับทุกๆมื้อที่คุณต้องการไม่ให้มันตกค้างอยู่ในร่างกายของคุณ หากคุณเลี่ยงดื่มน้ำในมื้อแซ่บๆไม่ได้

"น้ำไม่ได้เป็นพิษ
ความไม่รู้ตั้งหากล่ะที่ก่อโรคภัยไม่รู้จบ"

เขียนโดย ผีเสื้อหน้าหยก

ติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่
facebook คันฉ่องสุขภาพ
และ http://inno4health.blogspot.com/

ยิ่งคุณนอนดึก แล้วท้องผูก คุณก็จะเป็นสิวง่าย เป็นรังแคเรื้อรัง


สิวนี้จะมีสองแบบ คือ
แบบสิวหัวช้าง มีอาการหน้ามันร่วมด้วย สิวแบบนี้รักษาไม่ยาก เพราะร่างกายต้องการขับของเสียออกทางรูขุมขนเท่านั้นเอง
ให้คุณลดอาหารกลุ่มมันๆ ในช่วงนอนดึกก็ดีขึ้นแล้ว งดกลุ่ม หมู เป็ด ไก่ ได้ด้วยยิ่งดี
และสิวผด มีอาการผิวแห้งร่วมด้วย พวกนี้จะเหมือนแพ้ เมื่อคุณไปหาหมอคุณอาจจะได้รับเสตียรอยด์มาทา
หากคุณทาไปแล้ว ผิวคุณอาจจะอ่อนแอลง แล้วกลับมาเป็นอีก เป็นแล้วเป็นอีกไม่หาย สิวแบบนี้จะอยู่กับคุณอย่างยาวนาน

รังแค คุณจะไม่เข้าใจตัวเองว่า ไม่สะอาดหรือเปล่า ทำไม เป็นรังแคอยู่ได้ นั่นก็เพราะผิวหนังกำพร้าของคุณตายเร็ว!!!
หากคุณยังนอนดึกอย่างนี้อยู่ ผิวมันก็ลอกอยู่เรื่อยๆ แชมพูขจัดรังแคไม่สามารถช่วยให้หายขาดได้

เคล็ดลับของการรักษาสิวหัวช้างคือ คุณต้องลดของมันในช่วงเวลาที่ต้องนอนดึก อันนี้เผื่อเราหวังผลอยากหน้าใสเลยต้องลด
ของมันใน 6 สัปดาห์ เพื่อให้ครบรอบอายุของเซลล์ตับ ตับจะฟื้นฟูและมากำจัดพิษในร่างกายของตนเองได้ดี อาการท้องอืด
จะลดลง และผลพลอยได้ก็คือน้ำหนักลดลงอีกด้วย

สำหรับสิวผดน้ัน สังเกตดีๆ ว่ามันมาพร้อมกับความแห้งกร้าน และมีอาการคันยิบๆ ร่วมด้วย เทคนิคคือ พยายามอย่าล้างหน้า
ด้วยสบู่เจลหรือโฟมใดๆ ในตอนเช้า ให้ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าอย่างเดียว เพื่อไม่ชะล้างสารเคลือบผิวที่ถูกสร้างตอนกลางคืนออกไป
ไม่ต้องกลัวหน้ามัน ที่ผิวมัน เพราะว่าผิวขาดน้ำ เรายิ่งล้างน้ำมันออก ต่อมไขมันยิ่งผลิตออกมามากขึ้น ก็ยิ่งมันขึ้น
ผิวแบบนี้ต้องพยายามให้ชุ่มชื้นไว้ แล้วอาการแดงจะลดลง นี่คือเบื้องต้น เท่านั้น เพราะนี่เป็นลักษณะของอาการแพ้

ส่วนรังแค จะมาบ่อยขึ้นเรื่อยๆ หากยังนอนดึกอยู่ ไว้จะพูดรายละเอียดให้ฟังถ้ามีโอกาส

ทุกๆ คนย่อมมีภาระกิจที่ต้องทำ
ทุกๆ ชีวิตมีเป้าหมายของตน
และเป้าหมายของทุกชีวิต ควรถูกวางไว้บนความไม่ป่วย


เขียนโดย ผีเสื้อหน้าหยก

ติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่
facebook คันฉ่องสุขภาพ
และ http://inno4health.blogspot.com/

ขอบคุณรูปจาก www.tsgclub.com

Friday, March 22, 2013

คืนนี้ใครจะนอนดึกบ้าง ยกมือขึ้น



โบราณกล่าวว่า "ไม่นอนหนึ่งคืน ต้องฟื้นพลังถึงสิบคืน"
จริงๆแล้ว ไม่มีใครอยากนอนดึกหรอกครับ แต่เวลา 24 ชั่วโมงเหมือนมันจะไม่พอ

การนอนดึกทำให้ คนเริ่มป่วยมากขึ้น ความร้อนในร่างกายสะสม หยางมาก หยินพร่อง
กลายเป็นมีสมาธิมากขึ้นในยามค่ำคืน
บางคนไม่ดึกคิดงานไม่ออก

เทคนิคนอนดึกก็คือ
สมองของเราจะหลับลึกเป็นช่วงๆ โดยทุกๆ สองชั่วโมงจะรู้สึกตัวขึ้นครั้งหนึ่ง
และเป็นวงจรอย่างนี้เรื่อยๆ ไปจนเช้า
ดังนั้น เราจะต้องนอนเป็นเลขคู่ของชั่วโมง
คือ สองชั่วโมง สี่ชั่วโมง หกชั่วโมง
เพื่อตื่นขึ้นมาพร้อมกับเวลาที่สมองจะรู้สึกตัวพอดี
คุณควรตั้งนาฬิกาปลุกลุกขึ้นมา"เผางาน"ตอนช่วงนั้น
อย่าฝืนให้ร่างกายตื่นขึ้นมา ช่วงเลขคี่เป็นอันขาด
เพราะคุณจะเกิดสภาวะแฮงค์ งวงเงีย พูดไม่รู้เรื่อง และทำลายสมองของคุณเองทีละน้อย

หากคุณรู้ว่าคุณต้องนอนดึก พยายามงดอาหารที่ย่อยยาก เช่นของมันๆ
แต่ข้อนี้มันก็พูดยาก เพราะในเมื่อเราทำงานมาหนักแล้ว จะให้เรามากินโจ้ก กินข้าวต้มทุกๆ คืนมันคงไม่อยู่ท้อง และเป็นไปได้ยาก
แต่อย่างน้อยก็รู้ไว้ครับ การกินของอ่อนๆ ร่างกายจะไม่ทำงานหนักเกิน

ถ้าคุณอดนอนมา คุณจะเจอสภาวะ ทั้งหิวและง่วง อย่างนี้คุณจะเลือกกินหรือเลือกนอนก่อนดี
ขอแนะนำเลยครับว่า คุณต้องเลือกกินก่อน เพราะร่างกายขาดอาหาร อย่าปล่อยให้ร่างกายนอนไปพร้อมๆ กับความหิวโหย
ให้คุณกินอาหารอ่อนๆ แม้แต่ น้ำข้าวก็ยังดี เมื่อคุณกินไปแล้ว ภายในช่วงเวลาแป๊บเดียวคุณจะง่วงนอนทันที
ให้คุณไปนอนได้เลย แต่คุณจะนอนไม่ได้นานนักหรอกร่างกายจะเริ่มตื่นขึ้นอีกครั้ง เพราะร่างกายของคุณต้องการกินอาหารอีก
เมื่อคุณตื่นขึ้นมาคุณจะแปลกใจ ว่าทำไมหิวอีก ก็กินตามที่ร่างกายบอกคุณ พยายามฟังเสียงร่างกายของคุณเข้าไว้
คุณจะนอน จะกินอย่างนี้ จนกว่าสภาพร่างกายจะกลับมาเช่นเดิม วงจรชีวิตของคุณจะยาวขึ้นเหมือนเดิม คือ นอน 8 ชั่วโมง กิน 3 มื้อ เหมือนปรกติ และพยายามอย่าอดนอนอีกถ้าไม่จำเป็น เพราะนี่คือการทำให้วงจรชีวิตของคุณสั้นลง

สัญญาณของการนอนดึก
เมื่อร่างกายนอนดึกมากๆ การขับถ่ายของคุณจะเริ่มผิดปรกติ เพราะลำไส้ของเราทำงานสูงสุดตอนที่เรานอนหลับ
เพื่อขับถ่ายของเสียจากกลางวันออกไป หากของเสียเริ่มสะสม คุณจะเริ่มเป็นสิว ผิวมัน และเป็นรังแค

เขียนโดย ผีเสื้อหน้าหยก

ติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่
facebook คันฉ่องสุขภาพ
และ http://inno4health.blogspot.com/

ขอบคุณรูปจาก www.123rf.com

ปวดบ่า ตึงสะบักหลัง


เวลา13:00-15:00น.
เป็นช่วงเวลาของลำไส้เล็ก
คุณจะรู้สึกเพลียและล้า
เนื่องจากเส้นลมปราณของลำไส้เล็กจะพาดผ่านไหล่ทำให้ช่วงเวลานี้หากลำไส้เล็กของคุณสกปรก จะเกิดปัญหาขึ้น

คุณควรลดไขมันจากอาหารทอดต่างๆ
ลดหมูเป็ดไก่สัก6สัปดาห์เพื่อทำความสะอาดลำไส้เล็กของคุณ
กลุ่มพวกนี้จะมีอาการดื่มน้ำแล้วจะปัสสาวะบ่อยร่วมด้วยครับ

หากคุณต้องการรักแท้ คุณควรรู้วิธีล่าเหยื่อ...ให้ถูกต้อง



ในแข็งมีอ่อน ในอ่อนมีแข็ง
กำแพงใหญ่ย่อมมีช่อง
หยกเนื้อดียังมีรอย

ผู้หญิงเป็นหยิน ผู้ชายเป็นหยาง
ผู้หญิงและผู้ชายมีจุดอ่อนที่ต่างกัน
โดย"ผู้หญิงจะมีจุดอ่อนอยู่ที่หู
ส่วนผู้ชายจะมีจุดอ่อนอยู่ที่ตา"

ผู้หญิงชอบฟังสิ่งที่คุณพูด สิ่งที่คุณสัญญา สิ่งที่คุณสาบานเพื่อเธอ
ไม่ว่าหน้าตาคุณจะมาจากขุมไหน...ก็ตาม
เธอพร้อมที่จะหลับตาฟังคุณทุกเมื่อ
และเมื่อใดก็ตามที่เธอเริ่มฟังคุณโดยใช้ดวงตาแล้วล่ะก็
แสดงว่าคุณก็ได้เข้าถึงดวงใจของเธอเรียบร้อยแล้ว

ส่วนผู้ชายชอบจากการมองเห็น
จงรักษาระยะห่างเข้าไว้ ดุจดาวบนฟ้า ให้เขาเพียงแค่ได้สัมผัสด้วยตาเท่านั้น
นั่นจะเป็นวิธีที่คุณทรมานเขา ให้ธาตุหยางเผาไหม้หัวใจของเขา
จนอ่อนกำลัง จึงค่อยจู่โจม
จำเอาไว้ "รู้เขา เสร็จเรา ชนะไม่ต้องรบ"

เขียนโดย ผีเสื้อหน้าหยก

ติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่
facebook คันฉ่องสุขภาพ
และ http://inno4health.blogspot.com/

ขอบคุณรูปจาก www.tlcthai.com

เจ้าชู้ รู้เอาไว้


ความเจ้าชู้เกิดจากลูกเล่นของหยินหยาง
สามารถสังเกตได้เพียงการพินิจใบหน้า
1. คิ้วสูงกว่าหู คนกลุ่มนี้มีชอบแสวงหาสิ่งใหม่ๆเสมอ ไม่ตกลงปลงใจกับสิ่งใดสักที
เหมือนเวลาที่คนเราชะเง้อมองสิ่งใด หรือเลิกคิ้วให้สูงขึ้นเพื่อชะเง้อมอง
เมื่อเราพบสิ่งแปลกๆใหม่ๆเพียงแต่ว่าคนที่มีสรีระเช่นนี้ เขาชอบสิ่งแปลกใหม่ๆเสมอ
หากคุณได้แฟนเช่นนี้ กรุณาอย่าทำตัวน่าเบื่อ เขาชอบสีสัน และความท้าทาย
2. ดวงตาไม่เท่ากัน ซ้ายเล็ก ขวาใหญ่ บ่งบอกถึง ความมีชั้นเชิง มีความในใจ
ไม่บอกหมด หากเวลาเขาวางแผนการใดมักจะหลี่ตาข้างหนึ่ง เพื่อพินิจพิเคราะห์
สิ่งเดียวที่คุณจะเอาชนะคนพวกนี้ได้ก็คือความจริงใจ ความไว้วางใจ ปล่อยให้เขาคิดว่า...
เขารู้จักคุณในทุกเรื่อง คุณช่างซื่อบริสุทธิ์ คุณเป็นคนเดียวในโลกที่เขาจะวางใจได้มากที่สุด
เมื่อถึงจุดนั้น เขาจะติดคุณเหมือน จิ้งจอกน้อยเลยแหละ
3. ใบหน้ามน คิ้วโค้ง กลุ่มพวกนี้มีธาตุน้ำเต็มอิ่ม พูดจามีเสน่ห์ ช่างเจรจา
พวกนี้จะมีคนอื่นมาสัมพันธ์ด้วยง่าย มักรู้จักคนไปหมด เข้ากับใครก็ได้

คุณต้องรู้เอาไว้
เผื่อจะได้พบคนทั้งสามในร่างเดียวกัน

บางคนเห็นแล้วอยาก บางคนเฉยๆ



คนที่สมองเสพติดความมันไว้แล้ว
เมื่อเพียงเห็นเท่านั้น ก็จะเกิดความอยากขึ้นมาทันที
นี่แหละครับคือศัตรูที่น่ากลัวของการลดความอ้วน

สมองของเราสามารถเสพติดของมันๆ ของหวานๆ และแม้กระทั่งน้ำเย็น!!!



ยอมไม่กินแป้ง แต่ความอ้วนก็ไม่ลดซะที



เหนื่อยใจนะครับ กับความพยายามขนาดนี้ เพราะแป้ง น้ำตาล ข้าว
มีอยู่ทุกๆที่และเป็นอาหารหลักของคนทั้งชาติ
ทำไมถึงไม่ลด
ก็เพราะร่างกายของเราเข้าสู่สภาวะจำศีล
ร่างกายของเรานึกว่า เราอาจจะเข้าสู่สภาวะสงครามอยู่
เราขาดแคลนอาหารอย่างหนัก จึงไปทำการลดอัตราการเผาผลาญให้ต่ำเข้าไว้
ผลก็คือแม้ไขมันจะลดลงก็จริง
แต่ร่างกายของเรากลับอ้วนง่ายขึ้น เพราะการเผาผลาญที่ต่ำลง!!!

ไม่เพียงแค่นั้น เมื่อร่างกายขาดน้ำตาล ร่างกายจะดึงเอาพลังงานสำรองมาใช้
ตัวอย่างเช่น ไกลโคเจนที่อยู่ในตับของเรา ซึ่งเป็นพลังงานที่เราเอาไว้ใช้แบกตุ่มเวลาไฟไหม้
เมื่อพลังงานสำรองร่อยหรอลง ต่อจากนั้นเราจะกลายเป็นคนที่ร้อนง่าย หนาวง่าย
มือเย็นเท้าเย็นอีกด้วย ลมปราณนั้นหกเส้นที่มือทั้งสองข้าง เท้าทั้งสองข้างก็จะเกิดความบกพร่อง
ไม่สามารถแลกเปลี่ยนหยินหยางได้
สุดท้าย เราก็จะแก่เร็ว

ไม่คุ้มเลยครับกับความไม่เข้าใจร่างกายของเราเอง

แล้วผมจะแนะนำวิธีการที่เจ๋งกว่านี้ให้ครับ

เขียนโดย ผีเสื้อหน้าหยก

ขอบคุณรูปจาก www.thaikidneyclub.org

สนใจฝากคำถาม และอ่านย้อนหลังได้ที่ http://inno4health.blogspot.com/

Monday, March 18, 2013

ใครง่วงนอนตอนห้าโมงเย็นบ้าง... ยกมือขึ้น



ห้าโมงเย็น เป็นเวลาของไต
คนที่ง่วงนอนในเวลานี้ เพราะพักผ่อนไม่เพียงพอ บางคนปัสสาวะเหลือง
บางคนมีอาการร้อนที่ใบหู
เนื่องจาก ใบหูเป็นทวารของไต เช่นเดียวกับคิ้วซึ่งเป็นทวารของตับ(อ่านเพิ่มเติมได้จากตอน คิ้ว เจ้าอารมณ์ และ คิ้ว เศรษฐี)

ความร้อนของกิจกรรมในระหว่างวันจะเริ่มระบายออกไปทางใบหู
เพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่สภาวะการนอนหลับในตอนกลางคืน
ดังนั้นหลังจากเวลานี้ไปไม่ควรทำกิจกรรมที่หนักหน่วง
ควรกินอาหารเบาๆ เพื่อลดภาระของร่างกายลง
เพราะหากกินหนักมากเกินไป ร่างกายต้องปล่อยน้ำย่อยออกมามากเพื่อย่อยให้หมด
หากไม่หมดก็จะเกิดการตกค้างเน่าเสียที่ลำไส้

คนที่ง่วงนอนตอนห้าโมงเย็นจะไปตื่นได้อีกทีตอนหนึ่งทุ่ม
โดยมากจะตื่นตัวมากขึ้นเรื่อยๆด้วย เหมือนนกฮูกกลางคืน
คนจำพวกนี้มักจะมีสมาธิดีขึ้นเรื่อยๆ ยามค่ำคืน
และมักจะฟุ้งซ่าน และเพลียง่ายในตอนกลางวัน
เพราะภายในเสียสมดุลย์
การบำรุงไต จะช่วยเรียกคืนความสมดุลย์กลับมา




ขอบคุณรูปจาก wlanru.blogspot.com

คนเก่งไม่เท่ากัน เพราะกระเพาะ 3 แบบ



คนที่กระเพาะแข็งแรง จะมีอำนาจการตัดสินใจเด็ดขาด
ดังนั้น การเริ่มต้นของวันใหม่ ความทำให้กระเพาะอิ่มไว้ก่อน เพื่อเป็นฐานพลังงานในการทำงานตลอดทั้งวัน
ยิ่งอาชีพของคุณเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจมากเท่าไหร่
ชี่ ของกระเพาะคุณต้องเต็มอิ่มมากเท่านั้น
เช่น การเล่นหุ้น คุณต้องการการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ เพื่อตัดสินใจ ฉะนั้น กาแฟแก้วเดียวไม่พอ
หากคุณกินไม่ลงจริงๆ แนะนำน้ำขิง ก่อน น้ำขิงจะไปทะลวงเส้นลมปราณต่างๆ ให้เปิดออก
หากคุณรู้สึกร้อนท้อง คุณสามารถเริ่มฝึกทานข้าวต้มอ่อนๆ ได้ทันที
ทำเช่นนี้ทุกๆ วันจนกว่าร่างกายของคุณจะเคยชิน พร้อมรับกับวันใหม่เสมอ



โรคที่เกี่ยวกับกระเพาะอ่อนแอ อย่างไม่น่าเชื่อเลยก็คือ
โรคยกขาไม่ขึ้น โรคนี้เกิดกับคนสูงอายุ ซึ่งจุดฝังเข็มอยู่ที่ขา มีชื่อเรียกว่า จู๋ซ่านหลี่
อยู่บนเส้นลมปราณกระเพาะอาหาร
จุดนี้มีชื่อเรียกว่า จุดเตะปีบดัง ทำไมเตะปีบดังละ ก็เพราะว่า จุดบนเส้นลมปราณกระเพาะอาหารนี้
ควบคุมกำลังของการยกขา หากยกขาไม่ขึ้น ก็คงจะเตะปีบไม่ดัง

เส้นลมปราณกระเพาะอาหารนี้ลากยาวไปจนถึงบนใบหน้า
ทำให้แก้มเป็นสีชมพูระเรื่อได้ ไว้ครั้งหลังจะพูดถึงความงามบนใบหน้าให้ฟังนะครับว่า
มันเกี่ยวกับกระเพาะอย่างไร
แต่ตอนนี้ของให้ทุกๆ คนเริ่มฝึกกินข้าวเช้าให้ได้ก่อนนะครับ

สรุป เริ่มจาก น้ำขิงอุ่นๆ น้ำธัญพืช จนทานผักผลไม้ได้ แล้วท้องไม่อืด ส่วนอาหารเช้าคุณจะทานอะไรทานไปได้เลยครับ
มื้อเช้าไม่อ้วนอยู่แล้ว