Wednesday, June 5, 2013

กินสัตว์ใหญ่ อายุสั้น...แก่เร็ว? ควรทำอย่างไร?



อุณหภูมิในสัตว์หลายชนิด
มีอุณหภูมิร่างกายสูงกว่าในมนุษย์
คือประมาณ 38-40 องศาเซลเซียส
สัตว์มีอายุสั้น หายใจเร็ว หัวใจเต้นเร็ว ทำให้แก่และตายเร็ว

เมื่อเราบริโภคเนื้อสัตว์
ไขมันและน้ำมันจากเนื้อสัตว์เมื่อมาอยู่ในร่างกายของเรา
ซึ่งมีอุณหภูมิต่ำกว่า จะจับตัวกัน ทำให้เลือดเราเหนียวข้น
ก่อให้เกิดปัญหาตามมามากมาย

หากเลือดข้น การขนส่งออกซิเจนไม่ดี
หัวใจสูบฉีดหนักขึ้น สมองอ่อนล้า
อวัยวะทั้งหมดทำงานหนักขึ้น
เพลีย อ่อนแรงง่าย...ทำให้แก่เร็ว

คนที่ลองงดเนื้อสัตว์แล้วรู้สึกตัวเบาขึ้น
นั่นก็เพราะเลือดเขาไม่หนืดนั่นเอง

ลองเริ่มต้นงดเพียงแค่ 4 วัน
ก็รู้สึกดีขึ้นแล้ว....

หากทำไม่ได้จริงๆ

ผมขอแนะนำให้กินน้ำมันดีที่มีจุดหลอมเหลวต่ำ
เข้าไปเพื่อละลายไขมันเหล่านั้น

น้ำมันดีได้แก่ น้ำมันปลา และ น้ำมันงาม่อนครับ

เลือดไม่หนืดข้น ชีวิตจึงยืนยาว...

แบ่งปันเคล็ดลับให้แก่กันนะครับ

"ความรู้โบราณ อายุนับพันปี
ถ่ายทอดผ่านร้อยชั่วคน
แต่บางคน...ชั่วชีวิต กลับมิเคยได้รู้..."

เคล็ดลับจากศาสตร์โบราณ เพื่อคนยุคใหม่
โดย Admin : ผีเสื้อหน้าหยก
Facebook คันฉ่องสุขภาพ

http://scoop.mthai.com/scoop/13.html
http://waronblog.wordpress.com/
http://www.one-leggedsandpiper.com/OLSP/2009/11/Main.htm
http://depositphotos.com/12047295/stock-illustration-Front-view-hot-thermometer-vector.html

การให้เลือดบริจาคเลือดบ่อยๆดีหรือไม่



การให้เลือดบางคนก็ว่าดี เพราะจะได้เปลี่ยนเลือดออกไป
แต่บางคนเสียเลือดมากกลับเพลียง่าย มือเย็นเท้าเย็น ร่างกายเสื่อมไว

แล้วเราควรจะบริจาคหรือไม่

การเจริญเติบโตของร่างกาย
แบ่งออกได้เป็นสองช่วง คือ
1. ช่วงที่เจริญเติบโต
2. ช่วงที่ร่างกายเสื่อมถอย

ในช่วงที่ร่างกายเจริญเติบโต จะเป็นช่วงที่ร่างกายพร้อมจะเสริมสร้าง
ดังนั้นในช่วงนี้หากร่างกายได้รับการบาดเจ็บ ร่างกายจะกลับสร้างขึ้นมาเพื่อชดเชย
อวัยวะนั้นให้แข็งแรงกว่าเดิม

บางคนออกกำลังกายสม่ำเสมอตั้งแต่เด็ก ร่างกายก็เคยชินกับการได้ออกกำลังกาย
กล้ามเนื้อก็รับแรง รับน้ำหนักได้ดี ทำให้มีร่างกายที่แข็งแรงมากกว่าคนที่ไม่ออกกำลังกายตั้งแต่วัยเด็ก

หรือการโกนผม หากโกนตั้งแต่เด็ก ช่วยกระตุ้นให้เซลล์รากผมดกดำได้จริง
แต่หากอายุมากขึ้นแล้ว บางคนโกนผม กลับทำให้เส้นผมหงอกขาว หรือลดจำนวนลง

นั่นเป็นเพราะแต่ละช่วงเวลาหากเรากระทำต่ออวัยวะในร่างกาย
ร่างกายไม่สามารถฟื้นกลับได้ ก็จะอ่อนแอ แทนที่จะแข็งแรง

ดังนั้นการให้เลือดก็เป็นการกระทำต่อไขกระดูกที่จะสร้างเม็ดเลือดแดงใหม่ขึ้นมา
เพราะเนื่องจากเสียเลือดไป
หากร่างกายไม่แข็งแรงเรื่องระบบเลือดอยู่แล้ว
หากเสียเลือด ร่างกายจะไม่สามารถฟื้นฟูได้ทัน

คนที่ยังไม่เหมาะที่จะเลือดบ่อยๆได้แก่
คนที่มือเย็นเท้าเย็นง่าย ชี่น้อยลง
(พวกนี้ควรบำรุงเลือดของตัวเองก่อนที่จะให้เลือดผู้อื่น)

แต่สำหรับคนที่ให้เลือดมาตลอด จะช่วยให้ไขกระดูกได้เคยชินกับการสร้างเม็ดเลือด
ทำให้เขาเป็นคนที่มีเลือดที่แข็งแรง และถือเป็นกุศลมากที่ให้ทานเป็นอวัยวะเพื่อชีวิตมนุษย์

ใครอยากได้บุญจากด้วยการบริจาคเลือด
ควรรู้...ไว้ถึงวิธีการบำรุงเลือด
อ่านตามลิงค์นี้นะครับ
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=161189584043383&set=a.153415624820779.1073741828.152788904883451&type=1&theater

แบ่งปันเคล็ดลับให้แก่กันนะครับ

"ความรู้โบราณ อายุนับพันปี
ถ่ายทอดผ่านร้อยชั่วคน
แต่บางคน...ชั่วชีวิต กลับมิเคยได้รู้..."

เคล็ดลับจากศาสตร์โบราณ เพื่อคนยุคใหม่
โดย Admin : ผีเสื้อหน้าหยก
Facebook คันฉ่องสุขภาพ

Credit photo by:
http://www.med.cmu.ac.th/hospital/opd/health/bloodbank.htm

กระเพาะอาหารของเรามีความแข็งแรงไม่เท่ากัน เคล็ดลับของสาวพันปีอยู่ตรงนี้เอง




รู้ไหมครับ? 
กระเพาะอาหารของเรามีความแข็งแรงไม่เท่ากัน 
เคล็ดลับของสาวพันปีอยู่ตรงนี้เอง
ทั้งสวย.. ทั้งเก่ง..

คนที่ตื่นมาหิวข้าว แสดงว่ายังแข็งแรงอยู่
แต่คนที่ตื่นขึ้นมาแล้วกินอะไรไม่ลง ต้องใช้กาแฟกระตุ้น
พวกนี้กระเพาะอาหารจะอ่อนแอ

ส่งผลต่อสามส่วน คือ
1.การตัดสินใจ(สมอง)
2.ความเปล่งปลั่ง(ผิวหน้า)
3.ความกระฉับกระเฉง(ขา) 


กระเพาะอาหารแข็งแรงไม่เท่ากัน
จึงเก่ง และสดใส คงความเยาว์วัย ได้ไม่เหมือนกัน ...

เส้นลมปราณกระเพาะอาหารนี้
พาดผ่านศีรษะ ใบหน้า กระเพาะอาหารลงไปถึงขาจรดปลายเท้า
นอกจากจะเกี่ยวข้องกับการย่อยแล้วยังเกี่ยวข้องกับ
1. ควบคุมการตัดสินใจ
2. การออกกำลังของขาทั้งสองข้าง
3. ความเปล่งปลั่งบนใบหน้า

คนเราแม้จะมีสมองอันชาญฉลาดเพียงใด
แต่ในยามหิวกระหายกลับคิดไม่ออก ตัดสินใจไม่ได้ทั้งนั้น

เวลาคนหิว จะเกิดอาการกระสับกระส่าย
เมื่อร่างกายขาดพลังงาน
จะเอาพลังงานจากไกลโคเจนในตับ
มาใช้แทนตับเป็นอวัยวะแห่งความวู่วาม โกรธ ฉุนเฉียว
ดังนั้น คนหิวจึงหงุดหงิดน่ากลัว
การตัดสินใจมักผิดพลาด

สังเกตดูว่าเวลาเครียด หรือกังวล
เรามักเกิดอาการมวนท้อง
หรือบางคนเป็น"เครียดลงกระเพาะ"
ซึ่งเกิดจากความไม่มั่นใจ
การเครียดจะสัมพันธ์กับกระเพาะอาหารเป็นอย่างมาก
เนื่องจากเส้นลมปราณต่อถึงกัน

ผู้บริหารหรือผู้ที่ต้องใช้การตัดสินใจที่สำคัญ
ควรทานอาหารเช้าทุกๆ วัน

สาวมั่นทั้งหลายควรดูแลกระเพาะอาหารไว้ดีๆ
จะทำให้คุณทั้งสวยและเก่ง ทั้งยังดูกระฉับกระเฉง
เพราะนี่คือคุณสมบัติที่เส้นลมปราณกระเพาะอาหาร
ครอบครองอยู่

ดูอย่างไรว่ากระเพาะเรายังแข็งแรงอยู่หรือไม่
1. ตื่นมาแล้วหิวข้าวในยามเช้า แสดงว่ากระเพาะทำงานถูกเวลา ยังแข็งแรงอยู่
และกินอาหารได้ ไม่มีอาการกินไม่ลง หรืองุนงง
2. ตื่นมาแล้ว ต้องกินกาแฟก่อน ยังไม่หิว อย่างนี้ถือว่ากระเพาะไม่รู้จักหน้าที่ตัวเองแล้ว ควรฟื้นฟู และปรับพฤติกรรม

ความงามบนใบหน้า
ก็อาศัยจุดบนเส้นกระเพาะอาหารเช่นเดียวกัน
ดังนั้นคนต้องกินอาหารเช้า
ไม่เช่นนั้น ใบหน้าจะหมดราศี
ดูไร้พลัง ไม่เปล่งปลั่ง สดใสเท่าที่ควรจะเป็น

ฉะนั้นอยากเก่ง อยากสวย ควรบำรุงกระเพาะง่ายๆ ดังนี้
1."กระเพาะต้องทำหน้าที่ในยามเช้า
และพักผ่อนยามค่ำคืน"

ขอแนะนำหากกินไม่ลง ให้ดื่มน้ำขิงอุ่นๆ ก่อน
เพื่อเป็นการกระตุ้นกระเพาะอาหารให้ทำงาน
จากนั้นค่อยฝึก"กินข้าวเช้า"
ฝึกให้ได้นะครับ กาแฟ แก้วเดียวขนมปังสองชิ้น ไม่พอ
สำหรับเวลาเช้า

2. กระตุ้นจุดความงามเส้นกระเพาะอาหารบนใบหน้า
เวลาสำหรับกระตุ้นจุดนี้ได้ดีที่สุด คือ ช่วงเวลาในยามเช้า
จุดนี้อยู่ข้างๆ ปีกจมูก แต่ลากเส้นลงมาตรงกับกลางตาดำพอดี

ใช้นิ้วทั้งสองกดจุดนี้ค้างไว้สัก สองวินาที แล้วปล่อย
ทำซ้ำประมาณ 5 รอบ
จนรู้สึกจุดน้ันชาๆ หนาๆ
เมื่อปล่อยใบหน้าผ่อนคลาย กลับรู้สึกเหมือนใบหน้ายิ้มเองถือว่าใช้ได้ดี
จากนั้นล้างหน้าต่อด้วยน้ำเย็นจัด จะรู้สึกถึงความเปล่งปลั่งได้ทันที
การกระตุ้นจุดกระเพาะอาหารใช้กระตุ้นได้ทั้งความสวยและความหล่อนะครับ 

3. ออกกำลังกายเบาๆ ด้วยการวิ่งเหยาะๆ/เดินในยามเช้า
เพราะลมปราณเส้นกระเพาะอาหารสัมพันธ์กับขา
(คนสูงอายุที่กระเพาะเสื่อม ยกขาไม่ค่อยขึ้น เตะปีบไม่ดัง)
หากยังอยู่ในวัยที่ทำได้ ควรออกกำลังกายเอาไว้

4. งดน้ำเย็น ในมื้ออาหาร
จะช่วยลดอาการปวดขาเส้นหน้าแข้งได้ดีอีกด้วย
(คนกลุ่มนี้มักชอบ ทุบสันหน้าแข้งตัวเอง เพื่อให้คลายปวด)
ในการย่อยอาหาร หากดื่มน้ำเย็นเข้าไป
ร่างกายต้องใช้เลือดมาอุ่นกระเพาะ เพื่อทำให้การย่อยสมบูรณ์
บางคนจะเพลียมาก หลังกินข้าว ให้พยายามงดน้ำเย็น

ด้วยเพราะเส้นลมปราณกระเพาะอาหารนี้จึงทำให้
ใบหน้าที่อ่อนวัย
จะมาพร้อมกับความปราดเปรียว
และท้องที่อิ่มในยามเช้า

แบ่งปันเคล็ดลับให้แก่กันนะครับ

"ความรู้โบราณ อายุนับพันปี
ถ่ายทอดผ่านร้อยชั่วคน
แต่บางคน...ชั่วชีวิต กลับมิเคยได้รู้..."

เคล็ดลับจากศาสตร์โบราณ เพื่อคนยุคใหม่
โดย Admin : ผีเสื้อหน้าหยก
Facebook คันฉ่องสุขภาพ

Credit photo by:
http://my.dek-d.com/plely64/gallery/show_picture.php?id=100527004
http://acupunctureschoolonline.com/st-3-great-crevice-juliao-acupuncture-points.html/st-3-great-crevice-juliao-acupuncture-points-1
http://www.sciencealert.com.au/news/20121610-23799.html
http://www.builtlean.com/2012/08/28/early-morning-workouts/