Friday, March 22, 2013

คืนนี้ใครจะนอนดึกบ้าง ยกมือขึ้น



โบราณกล่าวว่า "ไม่นอนหนึ่งคืน ต้องฟื้นพลังถึงสิบคืน"
จริงๆแล้ว ไม่มีใครอยากนอนดึกหรอกครับ แต่เวลา 24 ชั่วโมงเหมือนมันจะไม่พอ

การนอนดึกทำให้ คนเริ่มป่วยมากขึ้น ความร้อนในร่างกายสะสม หยางมาก หยินพร่อง
กลายเป็นมีสมาธิมากขึ้นในยามค่ำคืน
บางคนไม่ดึกคิดงานไม่ออก

เทคนิคนอนดึกก็คือ
สมองของเราจะหลับลึกเป็นช่วงๆ โดยทุกๆ สองชั่วโมงจะรู้สึกตัวขึ้นครั้งหนึ่ง
และเป็นวงจรอย่างนี้เรื่อยๆ ไปจนเช้า
ดังนั้น เราจะต้องนอนเป็นเลขคู่ของชั่วโมง
คือ สองชั่วโมง สี่ชั่วโมง หกชั่วโมง
เพื่อตื่นขึ้นมาพร้อมกับเวลาที่สมองจะรู้สึกตัวพอดี
คุณควรตั้งนาฬิกาปลุกลุกขึ้นมา"เผางาน"ตอนช่วงนั้น
อย่าฝืนให้ร่างกายตื่นขึ้นมา ช่วงเลขคี่เป็นอันขาด
เพราะคุณจะเกิดสภาวะแฮงค์ งวงเงีย พูดไม่รู้เรื่อง และทำลายสมองของคุณเองทีละน้อย

หากคุณรู้ว่าคุณต้องนอนดึก พยายามงดอาหารที่ย่อยยาก เช่นของมันๆ
แต่ข้อนี้มันก็พูดยาก เพราะในเมื่อเราทำงานมาหนักแล้ว จะให้เรามากินโจ้ก กินข้าวต้มทุกๆ คืนมันคงไม่อยู่ท้อง และเป็นไปได้ยาก
แต่อย่างน้อยก็รู้ไว้ครับ การกินของอ่อนๆ ร่างกายจะไม่ทำงานหนักเกิน

ถ้าคุณอดนอนมา คุณจะเจอสภาวะ ทั้งหิวและง่วง อย่างนี้คุณจะเลือกกินหรือเลือกนอนก่อนดี
ขอแนะนำเลยครับว่า คุณต้องเลือกกินก่อน เพราะร่างกายขาดอาหาร อย่าปล่อยให้ร่างกายนอนไปพร้อมๆ กับความหิวโหย
ให้คุณกินอาหารอ่อนๆ แม้แต่ น้ำข้าวก็ยังดี เมื่อคุณกินไปแล้ว ภายในช่วงเวลาแป๊บเดียวคุณจะง่วงนอนทันที
ให้คุณไปนอนได้เลย แต่คุณจะนอนไม่ได้นานนักหรอกร่างกายจะเริ่มตื่นขึ้นอีกครั้ง เพราะร่างกายของคุณต้องการกินอาหารอีก
เมื่อคุณตื่นขึ้นมาคุณจะแปลกใจ ว่าทำไมหิวอีก ก็กินตามที่ร่างกายบอกคุณ พยายามฟังเสียงร่างกายของคุณเข้าไว้
คุณจะนอน จะกินอย่างนี้ จนกว่าสภาพร่างกายจะกลับมาเช่นเดิม วงจรชีวิตของคุณจะยาวขึ้นเหมือนเดิม คือ นอน 8 ชั่วโมง กิน 3 มื้อ เหมือนปรกติ และพยายามอย่าอดนอนอีกถ้าไม่จำเป็น เพราะนี่คือการทำให้วงจรชีวิตของคุณสั้นลง

สัญญาณของการนอนดึก
เมื่อร่างกายนอนดึกมากๆ การขับถ่ายของคุณจะเริ่มผิดปรกติ เพราะลำไส้ของเราทำงานสูงสุดตอนที่เรานอนหลับ
เพื่อขับถ่ายของเสียจากกลางวันออกไป หากของเสียเริ่มสะสม คุณจะเริ่มเป็นสิว ผิวมัน และเป็นรังแค

เขียนโดย ผีเสื้อหน้าหยก

ติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่
facebook คันฉ่องสุขภาพ
และ http://inno4health.blogspot.com/

ขอบคุณรูปจาก www.123rf.com

No comments:

Post a Comment